ชุมชนอลหม่าน! ชาวบ้านโวยถูกปิดทางเข้าออกซึ่งใช้มากว่า 100 ปี วอนหน่วยงานช่วยเหลือ
(6 มิ.ย. 61) ที่หมู่บ้านสมชายพัฒนา โครงการสุมิตรา หมู่ 5 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนนายขรรค์ชัย รื่นเอม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/2 หมู่ 5 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ประธานชุมชน และชาวบ้านอีกหลายสิบหลังคาเรือน ว่า ทางเดินเท้าบริเวณด้านโครงการที่ติดกับหมู่บ้านสมชายพัฒนาเก่า ได้มีบุคคลมาทำการสร้างประตูเหล็กและล็อคกุญแจปิดทางเดินของชาวบ้าน ทำให้ผู้ที่ใช้ทางนี้สัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน ทั้งคนชรา เด็ก และแม่บ้านได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางกรวย และเทศบาลเมืองบางกรวยแล้วแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าสำรวจพบว่า ทางเท้าดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับคลองวัดจันทร์ ซึ่งคลองนี้กั้นระหว่างหมู่บ้านสมชายพัฒนา โครงการสุมิตรา(โครงการใหม่) กับหมู่บ้านสมชายพัฒนาโครงการเก่า เป็นทางเดินเท้าขนาดความกว้างประมาณ 1 เมตร เทพื้นด้วยปูนซีเมนต์ ที่บริเวณด้านหลังบ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 ซึ่งเป็นบ้านของ นางเมตตา อายุ 55 ปี มีสะพานปูนข้ามคลองดังกล่าว ขนาดความกว้างประมาณ 1.50 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งเป็นสะพานของโครงการตามนโยบายของรัฐบาล มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้าน) ซึ่งซ่อมแซมหรือบูรณะทรัพย์สินประโยชน์สาธารณะ งบประมาณก่อสร้าง 30,000 บาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2559 โดยเทศบาลเมืองบางกรวย พบว่ามีการสร้างประตูเหล็กขนาดความกว้าง 2 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ประตูถูกล็อคด้วยกุญแจ ซึ่งอยู่ติดกับรั้วบ้านดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านที่เคยใช้เดินผ่านจุดนี้ไม่สามารถใช้สัญจรได้
จากการที่สอบถามรายละเอียดมีชาวบ้านออกมาให้ข้อมูลความเดือดร้อนจำนวนหลายคน ทราบว่า ทางเดินเท้านี้ชาวบ้านใช้เดินมานานหลายสิบปีตั้งแต่รุ่นตา-ยาย และสะพานตรงจุดนี้เมื่อก่อนเป็นสะพานไม้ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร ต่อมาทางเทศบาลได้มาซ่อมแซมเป็นสะพานปูน
ต่อมาเมื่อประมาณเดือน ม.ค. 61 เจ้าของบ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 คือ นางเมตตา และสามีได้สร้างประตูเหล็กปิดกั้นสะพาน และมีการล็อคกุญแจ ซึ่งชาวบ้านได้ขอร้องให้เปิดเป็นทางสาธารณะให้ใช้เดินแต่ทางเจ้าของบ้านไม่ยินยอมให้เปิด ในขณะที่สอบถามอยู่ นางเมตตา ได้ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวและได้มีการโต้แย้งกับชาวบ้าน
นายขรรค์ชัย รื่นเอม ประธานชุมชนและผู้ร้องเรียน กล่าวว่าชาวบ้านและตนเดือดร้อนเพราะเดินผ่านไปไม่ได้ เนื่องจากประตูล็อคและมีการทำเหล็กแหลมยื่นออกไป ก่อนหน้าที่ที่ทำประตูแต่ไม่มีเหล็กยื่น ชาวบ้านก็ใช้วิธีแหวกตัวข้ามไป บางทีก็ตกลงไปในคลอง สะพานนี้เทศบาลเป็นผู้ที่ทำให้เพราะก่อนหน้านี้เป็นสะพานไม้ ใช้เดินกันมาเป็นร้อยปีแล้วตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ตนไม่ทราบว่าทางเดินนี้เป็นทางเดินบนที่ของบ้านหลังดังกล่าวหรือไม่ เพราะจากการที่ดูคลองแล้วถ้าทำรางวัดจากกลางคลองออกไปทั้ง 2 ข้างน่าจะข้างละ 2.50 เมตร คือรวมความกว้างคลองน่าจะ 5 เมตร
สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือให้เปิดประตู มีจำนวนมากหลายหลังคาเรือน ฝากถึงหน่วยงานและนายกสุรศักดิ์ (นายสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศบาลเมืองบางกรวย) และนายก อบจ.นายธงชัย เย็นประเสริฐ ฝากถึงท่านด้วยว่าชาวบ้านแถวนี้เดือดร้อนจริงๆ
นางเมตตา เจ้าของบ้านที่ทำประตูเหล็กปิดทาง กล่าวว่าตอนที่จะสร้างสะพานปูนข้ามไปฝั่งบ้านตน ทางเจ้าหน้าที่ได้มาขอแต่ตนไม่เซ็นให้และไม่ยินยอมแต่ต้น ทางคนที่ก่อสร้างก็ยืนยันที่จะทำทั้งที่ตนไม่ยินยอม ตนและสามีไม่ได้เซ็นและก็ไม่รู้ว่าก่อสร้างกันไปได้อย่างไร ทางนี้เป็นทางที่มีคนเดินมาแต่ก่อน แต่ตนไม่ได้อนุญาตให้ทำถาวรแบบนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะตนกลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทีหลัง
เมื่อก่อนมีคนเดินไม่มากนัก แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่า ใครมาเดินกันมั่วไปหมดและมันเป็นที่ของตน ตนเคยเจอพวกติดยามาเดินเข้าออก ที่บ้านตนบางครั้งตนก็อยู่คนเดียวและเคยมีโจรเข้ามา โจรแถวนี้เยอะ ตนไม่ได้เป็นคนเอากุญแจมาล็อคจะเดินก็เดินได้ ตนไม่เคยปิดมีคนมาปิดแทน จึงขอให้เจ้าหน้าที่มารางวัดและดำเนินการไปตามกฎหมายที่ถูกต้อง
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ