เลือดโจร! รวบหัวขโมยประวัติโชกโชน ฉกทรัพย์สินชาวบ้านมาแล้วกว่า 60 หลังคาเรือน

(7 มิ.ย.61) พ.ต.ท. สุราษ แก้ววังปา สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเทพสถิต และ ร.ต.อ.เลิศฤทธิ์ วิชาโคตร รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบำเน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายเรืองฤทธิ์ แบสิ่ว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ นำกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ร่วมกันจับกุม นายอนุวัตร หรือ ทุย อายุ 28 ปี ได้ที่ไร่ริมถนนข้างคลองส่งน้ำ ม.14  ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ เป็นราษฎรบ้านเลขที่ 2/301 ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ จับกุมได้พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ รุ่น110 สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 1กต2164 นครราชสีมา เป็นรถที่ขโมยไปจากเขตอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เทพสถิต เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมพระเครื่อง 3 องค์ที่ขโมยมา

ซึ่งนายอนุวัตร หรือทุย  ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ตนเองไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เคยเสพยาบ้าเป็นประจำและเคยถูกจำคุกมาแล้วถึง 3 ครั้ง  ในคดีลักทรัพย์และรับว่าก่อคดีลักทรัพย์มาแล้วอย่างโชกโชนตามบ้านเรือนของชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 60  หลังคาเรือน

โดยจะใช้รถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมา ออกลักทรัพย์ของชาวบ้าน  โดยจะเลือกบ้านที่ไม่มีคนอยู่และอยู่ห่างจากชุมชนโดยจะขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นเงินสดเคยได้มากถึง 1 แสนบาท เงินสดหลักหมื่น หลักพัน หลักร้อย สร้อยคอทองคำ รถจักรยานยนต์ อาวุธปืน พระเครื่อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นม ข้าวสาร

โดยจะออกขโมยในเขตพื้นที่อำเภอเทพารักษ์  จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอเทพสถิต และอำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วโดยเฉพาะจักรยานยนต์ จะแยกชิ้นส่วนออกขาย ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ  ก็จะนำไปขายให้คนรู้จักในพื้นที่  เงินสดที่ได้จะนำไปเที่ยวเตร่เมื่อเงินหมดก็จะกลับมาตระเวนลักทรัพย์อีกเรื่อยไป

โดยจะลงมือทั้งกลางวันและกลางคืน และจะขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาลักทรัพย์ของผู้อื่นหรือรับของโจร  ซึ่งผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ด้วยจำนนต่อหลักฐานของกลางหลายรายการ ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป