เด็กหญิงแขนขาดปลอดภัยแล้ว แม่ยังไม่พร้อมเปิดใจ เฝ้าโทษตัวเอง

เหตุการณ์อุทาหรณ์ เด็กหญิง 5 ขวบต้องสูญเสียแขนไปเพราะผ้าติดล้อจักรยานยนต์ แม่ยังทำใจไม่ได้ โทษตัวเองเป็นสาเหตุ หมอชี้แจงสาเหตุที่ไม่ผ่าตัดต่อแขน

(8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานถึงความคืบหน้า กรณีที่ภาพอุบัติเหตุสุดสะเทือนใจ เสื้อผ้าติดเข้าไปในล้อจักรยานยนต์ ทำให้เด็กหญิง 5 ขวบถูกแรงกระชากแขนขาด กลายเป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์กับสังคม เบื้องต้นพบว่าไม่สามารถต่อแขนกลับคืนให้ได้ ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ หลังทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาตัว ทราบว่า ขณะนี้เด็กหญิงงวัย 5 ขวบ แพทย์ได้ทำการผ่าตัดรักษาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ล่าสุดอาการปลอดภัย แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะเด็กเสียเลือดมาก

>> สลด เด็กหญิง 5 ขวบ เสื้อคลุมพันล้อรถจยย. กระชากแขนขาด ต่อไม่ได้

ส่วนผู้เป็นพ่อแม่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้เป็นแม่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เอง ตอนนี้ยังรู้สึกเสียใจอย่างมาก เฝ้าตำหนิตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้ลูกสาวแขนขาด สร้างปมด้อยให้ลูกไปตลอดชีวิต จึงไม่พร้อมเปิดเผยชื่อและข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ถึงแม้ผู้สื่อข่าวได้มีการประสานขอถ่ายภาพและสัมภาษณ์กับครอบครัวแล้วก็ตาม

แพทย์ผู้ให้การช่วยเหลือเด็กหญิง ชี้แจงเหตุใดถึงไม่ต่อแขนให้

นพ.วิโรจน์ ณัฐรังสี นพ.ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลสุรินทร์ แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า ตอนนี้อาการน้อง รู้สึกตัวดี สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติดี บาดเจ็บที่ต้นแขนด้านซ้าย ซึ่งได้ทำความสะอาดแผลและเย็บปิด แต่แขนไม่สามารถต่อได้ เราให้ทางเลือกเขาว่าถ้าต่อที่ รพ.สุรินทร์ ไม่สามารถต่อได้ โอกาสค่อนข้างยากอยู่แล้ว เพราะไม่เคยมีการผ่าตัดต่อแขน หรือต้องย้ายไปที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา

ทั้งนี้ในแง่ผลการรักษานั้น หากทำการผ่าตัดต่อแขนและไม่สำเร็จ เลือดอาจไม่ไปเลี้ยงหรือมีปัญหาต่อในภายหลัง เกิดปัญหาแขนลีบ หรือกล้ามเนื้อแขนอ่อนแรง อาจจะต้องมาผ่าตัดซ้ำรักษาต่อภายหลังได้ ส่วนสภาพทางจิตใจตอนนี้ เด็กยังตอบโต้ได้ดี ถามว่าเจ็บไหมก็บอกว่าเจ็บหน่อยๆ

นายสมภพ สารวนางกูร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.สุรินทร์ กล่าวว่า ในแง่ของการดูแลรักษา ก็ตามอย่างที่อาจารย์วิโรจน์ได้แจ้ง หลังจากที่มีผู้ป่วยเด็กเข้ามารักษาจากอุบัติเหตุจาราจร อาจารย์ก็ได้มีการประเมินอาการดูก่อน และจะแจ้งผลการประเมินให้กับผู้ปกครองเด็ก ทราบถึงแนวทางในการรักษาต่อไป

เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ให้การช่วยเหลือเด็กหญิง

นายนฤเบศร์ คงมี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ ผู้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตอนที่ไปถึงก็เจอแม่นั่งประคองแขนของเด็กไว้ ตอนนั้นไม่คิดว่าแขนจะหลุดจริงๆ เพราะเห็นแค่กระดูกโผล่ พอเข้าไปจึงเห็นว่าหลุดจริง ก็เลยหาถุงหิ้วใส่น้ำแข็งแช่แขนเอาไว้ ก่อนจะห้ามเลือดที่บาดแผลแขนของน้องเอาไว้ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

ตอนนั้นเด็กร้องไห้บอกว่าเจ็บๆ แต่ไม่มีอาการซึม ผู้เป็นแม่นั้นร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก ส่วนคนที่เจ็บเหตุก็ช็อก ญาติต้องนำส่งโรงพยาบาลตามหลัง เหตุการณ์แบบนี้ตนเคยเจออยู่แต่ไม่ค่อยบ่อย ส่วนมากที่เห็นก็คืออวัยวะไม่หลุดออกมา จึงอยากฝากเตือนเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์