สุดล้ำ! ลุยตั้งกล้องคาเมร่าแคปจับพิกัดช้างป่า ผลักดันออกนอกเขตทำกินของชาวบ้าน

สุดล้ำ! ลุยตั้งกล้องคาเมร่าแคปจับพิกัดช้างป่า ผลักดันออกนอกเขตทำกินของชาวบ้าน

สุดล้ำ! ลุยตั้งกล้องคาเมร่าแคปจับพิกัดช้างป่า ผลักดันออกนอกเขตทำกินของชาวบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(8 มิ.ย. 61)   นายประวิทย์ แสงสกุล หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 (ลำปลายมาศ) นำเจ้าหน้าที่และกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ช้างป่าอำเภอเสิงสาง ออกสำรวจบริเวณแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านท้องที่ ต.บ้านราษฎร์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา

เพื่อเตรียมหาจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด คาเมร่าแคป  ซึ่งเป็นกล้องบันทึกภาพอัตโนมัติ ที่สามารถส่งรูปที่บันทึกในขณะที่มีสิ่งเคลื่อนไหวผ่านกล้อง ไปยังศูนย์ควบคุมหลักที่อยู่ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน ก่อนจะกระจายไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในสารระบบที่ศูนย์ควบคุม 

โดยทางอุทยานแห่งชาติทับลานจะนำกล้องวงจรปิดลักษณะนี้ มาติดตั้งบริเวณจุดที่มีปัญหาช้างป่าออกมาจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานและเข้าไปทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน  เพื่อให้กล้องแจ้งเตือนและจะสามารถส่งกำลังเข้าไปทำการผลักดันช้างออกจากพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

นายประวิทย์ แสงสกุล หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า พื้นที่ทำกินของชาวบ้านที่อยู่ติดกับแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลานในอำเภอเสิงสาง เกิดปัญหาช้างป่าออกมาเหยียบย่ำทำลายผลผลิตของเกษตรกรมาโดยตลอด ซึ่งแม้ทุกฝ่ายจะช่วยกันเฝ้าระวังรวมตัวกันลาดตระเวนเพื่อผลักดันช้างกลับเข้าสู่มาเป็นประจำ โดยใช้วิธีการทุกรูปแบบ แต่ปัญหานี้ก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากมีการเพาะปลูกพืชที่เป็นที่ชื่นชอบของช้าง อย่างเช่น กล้วย อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มและพืชสวนพืชไร่ต่างๆ  ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความเข้มข้นและลดการใช้กำลังในการออกลาดตระเวน ทางอุทยานแห่งชาติทับลานจึงเตรียมที่จะนำกล้องคาเมร่าแคป มาติดตั้งเพื่อให้แจ้งเตือนทันที เมื่อพบช้างออกมาจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน  ซึ่งจะได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร เข้าไปผลักดันช้างได้อย่างตรงพิกัดที่ช้างออก เพิ่มความรวดเร็วในการผลักดันช้างได้อย่างทันท่วงที

ซึ่งในเบื้องต้นทางอุทยานแห่งชาติทับลาน จะทดลองลำกล้องคาเมร่าแคปจำนวน 10 ตัว เข้ามาติดตั้งบริเวณจุดเป็นช่องทางเข้าออกของช้างป่าตามแนวเขตอุทยาน  และจะต้องเป็นจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมโทรศัพท์มือถือ ในการส่งภาพไปยังศูนย์ควบคุมและแจ้งเตือน  และเมื่อได้มีการกำหนดจุดแล้วก็จะได้นำกล้องมาติดตั้งในขั้นตอนต่อไป ซึ่งน่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook