"วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช" เปิดใจโพสต์ซึ้งถึงน้องสาว เผยยังคงคิดถึงเสมอ
ถือเป็นเหตุโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่สำหรับการสูญเสียน้องสาวสุดที่รัก น้องจูน กอปรบุญ ของ วีเจจ๋า ณัฐฐาวีรนุช เมื่อ 2 ปีก่อน จากปัญหาโรคซึมเศร้าและอีกหลายโรครุมเร้า
ล่าสุด เจ้าตัวโพสต์ซึ้งถึงน้องสาวที่จากไปด้วยความคิดถึง โดย วีเจจ๋า ได้ออกเปิดใจกับรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง ONE31 พร้อมบอกทำโปรเจกท์ต่างๆ เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เพื่อผลบุญจะได้ส่งถึงน้องสาว
ล่าสุดมีการโพสต์ถึงน้องสาวด้วย ใกล้วันเกิดเขา?
"จริงๆ น้องเสียไปเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ทุกๆปีที่เป็นวันเกิดเขาก็จะเป็นจ๋าที่เอาเค้กไปให้เขา ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเราก็อยากจะทำให้เขาอยู่ มันเป็นเหมือนกับการระลึกถึงของครอบครัวแล้วเราก็ไปทำบุญกัน"
ทุกวันนี้เราเหนื่อยเรานึกถึงน้องหรือมีกำลังใจจากน้องยังไงบ้าง?
"มีคนชอบมาถามว่าเราจะก้าวผ่านความเศร้าเรื่องนี้ได้ยังไง ทำยังไงถึงจะลืม เราไม่ลืม มันไม่มีทางลืมได้อยู่แล้ว เราก็เปลี่ยนให้ความรู้สึกเสียใจกลับมาเป็นแรงผลักดัน จ๋าก็บอกใครหลายๆ คนว่าเขาไม่ได้อยู่ใช้ชีวิตแล้ว เราใช้ชีวิตในส่วนที่เราอยู่ใช้แทนเค้า ใช้ในส่วนที่ทำอะไรให้มันดีขึ้นได้ อย่างของน้องก่อนเค้าไปเพราะโรคซึมเศร้า เราก็ใช้ชีวิตของเราไปทำโปรเจกท์ต่างๆ เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ส่วนนึงอยากให้ทุกคนมีความรู้ในโรคนี้ รับมือยังไง ถ้าเป็นสังเกต รักษายังไง ดูแลยังไง อะไรที่เป็นผลบุญเราก็จะได้ให้น้องเราด้วย"
>>จ๋า ณัฐฐาวีรนุช เปิดใจทั้งน้ำตาปมเหตุน้องสาวเสียชีวิต
สนิทกันมากขนาดไหน
"ก็มีน้องคนเดียว ห่างกัน 4 ปี ก็แกล้งกันมาตลอด เพราะตอนเด็กๆ เราชอบแกล้งน้อง เค้าก็จะอยู่ในทุกช่วงชีวิตของจ๋าเพราะเราคุยกันได้ทุกเรื่องและสิ่งที่เราบอกน้องเสมอไม่ว่าน้องจะอยู่ไหนเราไม่มีวันทิ้งน้อง มีชีวิตอยู่ก็ทำให้ได้ทุกอย่าง หรือวันนี้ไม่มีน้องอยู่อะไรที่ทำได้เกี่ยวกับน้องที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ก็จะทำ"
เวลาคิดถึงน้องทำยังไง
"ถ้าเราคิดถึงน้องเราก็ปล่อยให้คิดถึงไปก่อน อีกแป๊ปนึงคุณแม่ด็จะดึงสติให้อยู่กับความจริง แม้วันนี้เค้าได้อยู่ตรงนี้ แต่เค้าก็อยู่ที่ไหนซักที่นึง เค้าก็รับรู้อยู่เราทำอะไร เราเป็นยังไง ก็ไม่ทำให้เขาเป็นห่วง"
ตอนนี้ทำใจได้หรือยัง
"ถ้าถามว่าทำใจยอมรับว่าเค้าไม่อยู่แล้ว อันนี้ยอมรับได้ แต่ถ้าทำใจว่าไม่รู้สึกอะไรอันนี้ทำไม่ได้ ยังรู้สึกอยู่"
มีอะไรอยากจะบอกเขามั้ย
"ไม่ต้องห่วง พวกเราสู้ๆ แข็งแรงค่ะ"
มีเคล็ดลับยังไงที่ก้าวข้ามเรื่องนี้ได้ ?
"ก็ให้มองคนที่ยังอยู่ คุณแม่จะใช้หลักนี้ ตอนเกิดเหตุการณ์ขึ้นทุกคนดิ่งพร้อมกัน เพราะเราไม่ได้เตรียมใจมาทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นหลักนาที พอเราดิ่งกันมากคุณแม่จะฮึดขึ้นมาก่อน แล้วบอกว่าถ้าเราดิ่งพร้อมกันแล้วคนที่เหลืออยู่จะทำยังไง เราก็เลยคิดว่าเราแข็งแรงที่สุด เราต้องดูแลคนที่เหลืออยู่ เพราะคุณพ่อก็เป็นโรคหัวใจ"
แต่ถ้าเราย้อนเวลากลับไปได้ จ๋าอยากทำอะไรมากกว่านี้มั้ยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ ?
"ใครที่มีเพื่อน คนในครอบครัว หรือตัวเองกำลังเป็นโรคนี้อยู่ โชคดีกว่าจ๋าตอนที่ประสบเรื่องนี้มาก เพราะจริงๆ โรคซึมเศร้ามีมานานแล้ว แต่ว่าหลังจากที่เกิดเคสของจ๋า แล้วมีคนเอาไปลงสื่อมากขึ้นเลยทำให้มีคนพูดถึงมากขึ้น ทำให้คนเข้าใจโรคนี้มากขึ้น ถ้าจ๋าย้อนกลับไปได้ จ๋าคงจะดูแลให้ถูกทางมากกว่านั้น ตอนนั้นเรายอมรับเลยว่าไม่เข้าใจเรื่องโรคซึมเศร้า เราเข้าใจคิดว่าเค้าแค่เครียด"
"เพราะว่าเขาเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทแล้วไปผ่าตัดมา เลยทำให้ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ ต้องออกจากงาน เค้าก็อยู่บ้านเฉยๆ เบื่อ เซ็ง เครียด แล้วมีโรคกรดไหลย้อน โรคไทรอยด์ เราก็เข้าใจว่าเขาเครียดจากเรื่องสภาพร่างกายที่มันไม่ดี เราก็พยายามหาทางแก้เรื่องอื่นโดยไม่ได้แก้ตรงจุด คือการใช้เคมีบำบัดสมอง แต่เราพยายามให้กำลังใจ พาไปทำอย่างอื่น ถ้าเราทำการบ้านกับมันมากกว่านี้ แล้วเราแก้ไขได้ตรงจุดก็คงดีกว่านี้ แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วดีกว่าแปลว่ามันจะเปลี่ยนทุกอย่างได้หรือเปล่า ก็เลยเอาทุกอย่างที่เราไม่ได้ทำเอามาทำกับคนอื่นตอนนี้"
ติดตามรายการ คุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บ Show รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ