ลุงอัมพฤกษ์ จ่อบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์หมอ ขอโทษสาวตาบอด ทำให้หวังเก้อ

ลุงอัมพฤกษ์ จ่อบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์หมอ ขอโทษสาวตาบอด ทำให้หวังเก้อ

ลุงอัมพฤกษ์ จ่อบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์หมอ ขอโทษสาวตาบอด ทำให้หวังเก้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 09.09 น. ได้เดินทางไปยังที่บ้านพักของ นายพายัพ รอดเมือง อายุ 59 ปี ชาวบ้านหนองตารอด หมู่ 11 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ชายพิการป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนติดเตียงมานานกว่า 21 ปี ที่ตัดสินใจช่วยบริจาคดวงตาให้แก่สาววัย 26 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ผู้พิการตาบอดและยังต้องเลี้ยงดูบุตรแต่เพียงลำพัง แต่ต้องผิดหวังเมื่อติดเรื่องข้อกฎหมายนั้น

>> แพทย์ชี้แจง ​ลุงพิการสละ "ดวงตา" ให้สาวตาบอดไม่ได้ ผิดหลักมนุษยธรรม

ปรากฏว่าในวันนี้ นายพายัพ ยังคงอยู่ที่บ้านพักหลังจากเมื่อวานนี้ต้องเดินสายไปออกรายการโทรทัศน์ในหลายสถานี และกลับมาถึงยังบ้านพักในช่วงพลบค่ำ พร้อมกล่าวเปิดเผยว่า หากมีรายโทรทัศน์เชิญมาให้ไปออกรายการอีกก็จะไปอีก เพื่อช่วยกันรณรงค์ให้คนช่วยกันบริจาคอวัยวะบริจาคร่างกายกันให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าบุญกุศลที่เราได้ทำไว้จะส่งผลไปในภายภาคหน้าให้เราเกิดมามีอวัยวะครบถ้วน 32 ประการอย่างเป็นปกติ

หลังจากเจ็บป่วยมานานถึงกว่า 21 ปี ด้วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ทั้งยังมีอาการโรคกระดูกทับเส้นประสาทที่เจ็บปวดมาก และยังมีโรคหัวใจด้วย แต่ก็ได้ทำการรักษาใส่บอลลูนขยายมาได้ 4-5 ปีแล้ว โดยก็ยังกินยาต่อเนื่องมาตลอดอาการจึงดีขึ้น เมื่อก่อนก็เคยคิดฆ่าตัวตายอยู่บ่อยครั้งเพราะท้อแท้ และเครียดมากกับชะตาชีวิตที่เป็นอยู่เหมือนกัน

โดยเมื่อเป็นครั้งแรกนั้นไม่สามารถที่จะขยับร่างกายได้เลย โดยขยับได้แค่เพียงส่วนคอเท่านั้น แต่ก็ได้รับคำแนะนำและให้กำลังจากหมอ ที่ให้พยายามยอมรับให้ได้และหาทางคลายเครียด เช่น การดูโทรทัศน์ ดูรายการตลก รายการข่าว อะไรต่างๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเครียด

ส่วนการที่ตัดสินใจบริจาคดวงตาให้แก่ น.ส.สุนิสา มุ่งรวยกลาง หรือ น้องยุ้ย หญิงสาววัย 26 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ นั้น เพราะเห็นข่าวในโทรทัศน์ว่าเขานั้นมีความทุกข์มาก ทั้งพ่อแม่ก็แก่ชราตัวเองก็ยังพิการมองไม่เห็นและยังต้องเลี้ยงลูกน้อยอีกคน

ตนรู้สึกสงสารมาก จึงอยากจะบริจาคดวงตาให้เขาไปสักข้างหนึ่ง เพื่อให้เขาไว้คอยดูแลพ่อแม่และลูกของเขาได้ ด้วยความรู้สึกสงสารจึงให้และเพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลให้กับตนเองด้วย ในเมื่อชาตินี้ตนต้องมาพิการเจ็บป่วยภายภาคหน้าจะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้อีก

โดยครั้งแรกไม่รู้ว่ากฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้มีการบริจาคดวงตาได้ นอกจากพ่อแม่ภรรยาหรือบุตร เท่านั้น เพราะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของตนเองจึงทำให้เขาไม่สมหวัง แต่ตนก็จะไปบริจาคร่างกายเอาไว้ยังที่โรงพยาบาล ให้อวัยวะทุกส่วนไปใช้กับคนอื่นได้ส่วนร่างกายก็จะให้ไว้เป็นอาจารย์หมอต่อไป

“ต้องขอโทษน้องยุ้ยด้วย ที่ลุงทำไม่ได้เพราะกฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้ อย่างไรให้น้องยุ้ยสู้ๆ ต่อไปลุงจะเป็นกำลังใจให้ ถ้าหากท้อแท้อะไรก็ให้โทรศัพท์มาหาลุง แล้วลุงจะคอยให้คำปรึกษาไปเรื่อยๆ ต้องมีสักวันที่แสงสว่างของน้องยุ้ยจะต้องมีเกิดขึ้น” นายพายัพ กล่าว 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีคนใจบุญมาช่วยหาทางพาไปทำการรักษาอาการที่กำลังเจ็บป่วยต่างๆ ให้หายได้จะไปไหม นายพายัพ ตอบว่า ถ้าหากมีจริงก็อยากไป

อยากทำการรักษาให้หายเพื่อจะได้กลับมาประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองอย่างพออยู่พอกินได้ เพราะทุกวันนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน จนบางครั้งถึงกับต้องนอนน้ำตาไหลกับความเจ็บปวดของร่างกาย ที่เกิดขึ้นมานานถึงกว่า 21 ปีเต็มแล้ว

>> เปิดชีวิตลุงยอมสละ "ดวงตา" ให้สาวตาบอด ลำเค็ญแต่ก็สู้ไม่แพ้กัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook