ยายห่วงหลานเจ็บ 2พี่น้องนักมวยจิ๋ว
รายการ ทีวีรุมตอม 2 พี่น้องยอดกตัญญู ชกมวยแลกเงินเลี้ยงดูยายวัย 73 เผยดีใจหลังเห็นรูปตัวเองลงหนังสือพิมพ์ ยันจะตั้งใจชกทุกไฟต์ให้ดีที่สุด เตรียมขึ้นเวทีอีกครั้งวันที่ 26 เม.ย.นี้ที่สนามมวยจ.ชลบุรี แฟนๆ ตามไปเชียร์ได้ ส่วนยายระบุสงสารหลานที่เจ็บตัวเพื่อหาเงินเลี้ยงดู
จากกรณีสองพี่น้องสู้ชีวิต ชกมวยแลกเงินเลี้ยงยายและส่งตัวเองเรียน อยู่ในค่าย "ลูกสระแก้ว" หมู่บ้านสระแก้ว ม.3 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยคนพี่ชื่อ ด.ช.ธรรมนูญ สระสี อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนบ้านสระแก้ว ใช้ฉายาในการชกมวยว่า "คฤหาสน์เล็ก ลูกสระแก้ว" คนน้องชื่อ ด.ช.ธรรมศร สระศรี อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านสระแก้ว ใช้ฉายาในการชกมวยว่า "แรมโบ้ ลูกสระแก้ว" โดยได้รับการสนับสนุนจาก อบต.สำนักท้อน และชาวบ้าน ช่วยกันบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์ฝึกซ้อม โดยคนพี่มีฮีโร่ในดวงใจ คือ สมรักษ์ คำสิงห์ คนน้องมี สมจิต จงจอหอ เป็นฮีโร่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางยังค่ายมวยลูกสระแก้ว ทราบว่า ทั้งสองกำลังอยู่ระหว่างการพักผ่อนเพื่อเตรียมฝึกซ้อม เพื่อจะขึ้นชกในไฟต์ต่อไป โดยเมื่อทั้งสองเห็นหนังสือพิมพ์ "ข่าวสด" ที่เสนอข่าวและรูปของตัวเอง ต่างก็ดีใจ และบอกว่าจะตั้งใจชกทุกไฟต์ให้ดีที่สุด เพื่อจะได้เป็นเหมือนฮีโร่ในดวงใจ
นายบรรพจน์ สุรภาพ อายุ 42 ปี หัวหน้าค่ายลูกสระแก้ว เปิดเผยว่า หลังจากหนังสือ พิมพ์นำเสนอข่าวของ 2 พี่น้องนักมวยกตัญญูออกไป มีรายการทีวีหลายช่อง ติดต่อเข้ามาเพื่อมาถ่ายทำเพื่อนำไปออกอากาศ ซึ่งตนในฐานะตัวแทนชาวบ้าน ก็ไม่ขัดข้อง แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงพักของนักมวยในค่าย บางส่วนก็เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และนักมวย 2 พี่น้องกตัญญูก็เพิ่งไปขึ้นสังเวียนมาเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่สนามมวยกลางแจ้งประเพณีวันไหลสงกรานต์ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และจะขึ้นชกในไฟต์ต่อไปในวันที่ 26 เม.ย.ที่สนามมวยฝนจาง จ.ชลบุรี ซึ่งก็สามารถติดตามไปเชียร์และดูฝีมือได้
"ขณะนี้ก็ได้มีผู้ติดต่อเข้ามา เพื่อจะนำเด็กทั้งสองไปชกในรายการต่างๆ ซึ่งผมเองก็ยินดี แต่ต้องดูเงื่อนไข เพราะเด็กยังเรียนหนังสืออยู่ หากจะชกตลอดคงไม่ได้ เพราะกลัวจะเสียการเรียน" นายบรรพจน์กล่าว
นางสำอาง คุ้มเคลือบ อายุ 73 ปี ยายของ 2 นักมวยจิ๋วยอดกตัญญู กล่าวด้วยความดีใจ หลังเห็นรูปของหลานทั้งสองคนอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ และรู้สึกปลื้มใจจนแทบน้ำตาไหล กับความกตัญญูของหลานทั้งสองคน และสงสารหลานที่ต้องลำบากหลังจากพ่อแม่แยกทางไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ยังต้องมาเจ็บตัวแลกเงินมาเลี้ยงดูตนเอง โดยนางสำอาง กล่าวว่า ตนเองรู้สึกสงสารทุกครั้งที่รู้ว่าหลานจะขึ้นชก ก็จะดูทุกครั้งว่ามีบาดแผลตรงไหนบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องการให้หลานทั้งสองตั้งใจเรียน จะได้มีอนาคตที่ดีเพื่อเลี้ยงตัวเองต่อไป
นายบรรเลง สีสุด อบต.สำนักท้อน อ.บ้าน ฉาง กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนชาวบ้านได้ให้ความช่วยเหลือค่ายมวยแห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก และเห็นเด็กทั้งสองคนนี้มาตั้งแต่เข้ามาฝึกซ้อม ซึ่งก็ดูแล้วมีฝีมือ มีความประพฤติที่ดี และยังมีความกตัญญูต่อผู้เลี้ยงดู ซึ่งนับว่าหายาก สำหรับเด็กในวัยนี้ ที่รู้จักคิดหาเงินช่วยเหลือครอบครัว และตัวเอง ซึ่งทางอบต.สำนักท้อน ก็ได้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ฝึกซ้อมและสถานที่มาตลอด และภูมิใจ ที่เด็กทั้งสองคนได้ทำให้หมู่บ้านและค่ายมวยประจำหมู่บ้านเป็นที่รู้จักของ คนทั่วไป