ความคืบหน้าสาวหน้าพังเละ คู่กรณีขอชดเชยเงินหมื่น วอนให้เรื่องจบ

คู่กรณีหมอแผนโบราณติดต่อขอชดเชยเงินหมื่น ให้กับสาวหน้าพังเละ-เป็นอัมพาตครึ่งซีก สามีไม่ติดใจอะไร แต่อยากให้คิดถึงอนาคต จะทำมาหากินอย่างไรกับใบหน้าแบบนี้

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้ากรณีสาวเสียโฉมเพราะทานยาสมุนไพรแผนโบราณ ทำให้ใบหน้าอักเสบ เป็นแผลผุผอง ลิ้นชา ใบหน้าซีกซ้ายกลายเป็นอัมพฤกษ์ โดยที่แพทย์แผนปัจจุบันยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ตามข่าวที่รายงานไปแล้ว นายทัศวรรณ อายุ 32 ปี แม่ค้าเบเกอรี่ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลระยอง เพื่อรอความกระจ่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ล่าสุด นายสุชาติ อายุ 41 ปี สามีของแม่ค้าเบเกอรี่ กล่าวว่า เมื่อช่วงสายวันนี้ปรากฏว่า ลูกชายของหมอแผนโบราณที่ให้ยามาใช้ ได้โทรศัพท์มาขอไกลเกลี่ยช่วยเหลือในวงเงิน 20,000 บาท และขอให้จบเรื่องราวดังกล่าวลง เนื่องจากกระแสข่าวทำให้ชื่อเสียงของร้านต้องเสียหาย

นายสุชาติ บอกว่า ในส่วนนี้ตนก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพียงแต่ถามกลับไปว่า หากหมอวินิจฉัยว่าใบหน้าซีกซ้ายต้องเป็นอัมพาตครึ่งซีกและใช้เวลาในการรักษา ใครจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน ภรรยาของตนที่เป็นเหมือนเสาหลักของบ้าน เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สิ่งสำคัญคือหากใบหน้าของภรรยารักษาไม่หายจะทำอย่างไร

>> แม่ค้าสาวร้องสื่อ หน้าพังเละ-อัมพาตครึ่งซีก หลังกินยาแผนโบราณ

ถ้าหากว่าในอนาคตแฟนตนต้องเอาขนมเค้กไปส่งขายด้วยสภาพใบหน้าแบบนี้ แล้วใครจะกล้าซื้อ ส่วนตนก็เป็นคนพิการขาด้านซ้ายใส่ขาเทียม ต้องมาพบเจอกับเหตุแบบนี้อีก อนาคตแทบจะพัง ยังไม่รู้วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ นายสุชาติ ยังบอกว่าได้นัดให้อีกฝ่ายมาเจรจาที่โรงพยาบาลในช่วงบ่าย เพื่อให้เห็นสภาพที่เกิดขึ้นกับภรรยา แต่นั่งรอทั้งวันก็ยังไม่เห็นมา

ขณะที่ นางทัศวรรณ อาการป่วยยังคงเหมือนเดิม ใบหน้าซีกซ้ายเหมือนเป็นอัมพฤกษ์ มีแผลผุผองเป็นผื่นลุกลามเข้าไปที่ใบหูด้านซ้าย และเริ่มมีตุ่มเข้าไปที่ดวงตาด้านซ้ายที่มีน้ำตาไหลตลอดเวลาและตาซ้ายเริ่มปิด อาการยังหน้าเป็นห่วง

นางทัศวรรณ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าก่อนที่จะรับประทานยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพร ก็ได้แจ้งกับแพทย์แผนโบราณคนดังกล่าวว่า มีโรคประจำตัวเป็นโรค SLE หรือ โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ซึ่งหมอแผนโบราณคนดังกล่าวยังได้บอกกับตนว่ากินได้ ไม่เป็นอะไร แต่สุดท้ายตนต้องมีใบหน้าอย่างนี้ทำงานไม่ได้ ทุกวันนี้ที่รักษาตัวอยู่ก็ใช้สิทธิรักษา 30 บาท

อีกทัง้ยังอยากให้สังคมเข้าใจ เพราะตอนนี้ในหลายกระแสต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ยังไปกินยาแผนโบราณทำไม ซึ่งตนก็แจ้งและถามกับแพทย์แผนโบราณแล้ว เขาเป็นคนพูดเองว่าไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น

นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณทาง Sanook! News ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับตน เพราะสิ่งที่ประสบอยู่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใคร

อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นทีมข่าวได้ประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัดระยอง พร้อมกับสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดระยองว่าจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร ซึ่งขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดระยองได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างการสืบสวนและดำเนินการ