อย่างโปร! คนร้ายกวาดโน้ตบุ๊กและทรัพย์สินร้านคอมฯ มูลค่ากว่า 2 แสน หนีลอยนวล

(11 มิ.ย. 61 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เชียงใหม่ ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบร้านจำหน่ายโน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ Advice แอดไวซ์ ซึ่งตังอยู่บริเวณเลขที่ 32 ถ.หัสดิเสวี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ด้านข้างไอคอนสแควร์)

หลังจากได้รับแจ้งจากพนักงานของร้านว่า ได้เกิดเหตุมีคนร้ายงัดประตูเข้าไปทำการโจรกรรมทรัพย์สินที่อยู่ภายในร้าน โดยที่เกิดเหตุพบว่า มีพนักงานของร้านยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันบริเวณประตูด้านข้างของร้านพบว่ามีลูกกรงได้รับความเสียหายซึ่งมาจากการที่คนร้ายได้ก่อเหตุงัดเข้าไป

ซึ่งเบื้องต้นจากการสอบถามทางพนักงานทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มาทำงานตามปกติ และกำลังจะทำการเปิดร้านแต่ระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นประตูถูกงัด และเมื่อเข้าไปตรวจดูภายในร้านพบว่ามีโน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีกหลายชิ้นหายไป 
ขณะเดียวกันในเวลาต่อมา ภายหลังการตรวจสอบเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าคนร้ายนั้นได้มีการวางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดี โดยทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นได้ทำการถอดฮาร์ดดิสของกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพทั้งภายในร้านและนอกร้านออก เพื่อทำลายหลักฐานและเพื่อไม่ให้ติดตามตัวได้

นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุนั้นมีการเลือกขโมยแต่อุปกรณ์ที่มีราคาแพง ส่วนทรัพย์สินที่หายไป เบื้องต้นทราบจากทางพนักงานของร้านประกอบด้วย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก  จำนวนประมาณ 10 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องมีมูลค่าเครื่องละไม่ต่ำกว่า 20,000 - 30,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เช่น CPU , เมนบอร์ด และการ์ดจอ มากกว่า 20 ชิ้น ถูกขโมยไป รวมทั้งเงินสดที่อยู่เคาน์เตอร์แคชเชียร์อีกประมาณเกือบ 10,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปอย่างละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุในช่วงกลางดึก และคนร้ายน่าจะเป็นคนพื้นที่หรืออาจจะเป็นบุคคลที่เคยทำงานอยู่ที่ร้านดังกล่าว เนื่องจากรู้ทางเข้าออก และพฤติกรรมของคนร้ายที่เลือกขโมยแต่ทรัพย์สินที่มีราคาสูง รวมทั้งอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ  รวมทั้งการวางแผนของคนร้ายที่ได้เตรียมการมาอย่างดี

ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบหลักฐานลายนิ้วมือของคนร้าย และรวบรวมเบาะแส กล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุเพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีต่อไป