พ่อแม่รับศพ "น้องดานี่" เด็กลูกครึ่งตกตึก พูดปมขัดแย้งไปคนละทาง

พ่อแม่รับศพ "น้องดานี่" เด็กลูกครึ่งตกตึก พูดปมขัดแย้งไปคนละทาง

พ่อแม่รับศพ "น้องดานี่" เด็กลูกครึ่งตกตึก พูดปมขัดแย้งไปคนละทาง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (13 มิ.ย.) ครอบครัวของ "น้องดานี" วัย 7 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เด็กลูกครึ่งไทย-สวิสที่พลัดตกจากตึก และเป็น 1 ใน 2 ที่เสียชีวิต เดินทางมารับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งครอบครัวจะนำร่างของเด็กหญิงไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดจันทวงศาราม หรือวัดกลาง โดยกรณีนี้ยังมีปมขัดแย้งระหว่างผู้เป็นพ่อและแม่ตามที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้ผู้เป็นพ่อมาให้สัมภาษณ์ก่อนตามด้วยผู้เป็นแม่

โดย นายมาร์เซล ผู้เป็นพ่อของเด็ก ระบุว่า ตนอยากเรียกร้องให้เด็กมีชีวิตที่ดี หรือถ้าลูกไม่ได้อยู่กับพ่อก็ขอให้ลูกได้อยู่กับครอบครัวที่ดี ซึ่งพ่อพยายามติดต่อเด็กเพื่อทำหน้าที่ในความเป็นพ่อในการดูแล แต่แม่พยายามบอกเด็กว่าพ่อเป็นคนไม่ดี ไม่ใส่ใจ ดังนั้นเกรงว่าเด็กจะมีปัญหาในอนาคต ที่ผ่านมาพ่อและแม่มีปัญหากันเรื่องเงินที่ขอเงินแล้วไม่ให้ หรือให้แต่ไม่พอ หรือมีปัญหาการขโมยเงินของลูก

ทั้งนี้ พ่อยังติดใจสงสัยการตายของลูก เพราะการให้การยังคงแตกต่างกันระหว่างผู้ให้ปากคำแต่ละราย ทั้งแม่ ตาและยายของเด็ก พ่อของเด็กไม่เชื่อว่าผู้ใหญ่สามคนจะปล่อยให้เด็กประสบอุบัติเหตุอย่างนั้น

ส่วนเรื่องการขึ้นศาลก็ยังคิดอยู่ แต่อาจเป็นเรื่องการขอถอนสิทธิ์การดูแลจากแม่ เพราะไม่ไว้ใจในการดูแลลูกของแม่และยาย ขอให้ลูกไปอยู่กับใครก็ได้ที่สามารถดูแลได้ โดยไม่ต้องมาอยู่กับพ่อก็ได้ พ่อของเด็กยังเผยว่าไม่ได้เจอลูกมากว่า 4 ปี เจอกันอีกครั้งก็คือการรับศพแล้ว ตอนนี้พ่อพยายามเข้าถึงลูกแต่ถูกแม่กดดันจนเด็กรู้สึกกลัว

อีกด้านหนึ่ง น.ส.รัตติกาล แม่ของเด็ก เผยว่า ตอนแรกมีการเตรียมการจะย้ายโรงพยาบาล แต่เด็กกลับมามีอาการความดันตก เกล็ดเลือดต่ำ จนต่อมาอาการดีขึ้น แต่วันที่ 12 มิ.ย. เวลาสามทุ่มตนออกไปทานข้าวแล้วถูกพยาบาลโทรตาม ระบุว่าเด็กความดันตก หยุดหายใจ ตนก็ขอให้พยาบาลปั๊มหัวใจและยื้อทั้งคืน ตนพยายามโทรหาพ่อแต่พ่อไม่รับ จึงให้ห้องไอซียูของโรงพยาบาลโทรไปเอง ตนพยายามคุยกับพ่อตลอดแต่พ่อของเด็กไม่ยอมคุย ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พ่ออยากดูแลก็มาดูแลได้ พยายามบอกตลอดแต่พ่อไม่คุยกับตน

ส่วนเรื่องที่พ่อมาเยี่ยมเด็กแล้วบอกว่าถูกกีดกัน แม่ของเด็กยืนยันว่าการมาเยี่ยมทุกครั้งมีคลิปที่ตนบันทึกไว้ ที่พ่อฟ้องศาลขอเรียกร้องสิทธิ์เลี้ยงดูลูกก็ยินดี เต็มใจ เมื่อวานที่พ่อมาขู่ตนก็ไม่ได้บอกว่าต้องการให้ลูกมีชีวิตที่ดี แต่เป็นคำพูดอะไรตนขอไม่ตอบ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามสาเหตุของปัญหาระหว่างพ่อแม่นั้น แม่ของเด็กถามผู้สื่อข่าวกลับว่ามีลูกหรือไม่ ถ้ามีลูกแล้วมีคนทำร้ายลูก จะยังยอมให้คนๆ นั้นเข้าใกล้ลูกหรือไม่ แต่จากนั้นก็ขอไม่ตอบในรายละเอียด ระบุว่าเกรงจะเป็นการใส่ร้าย

ส่วนอาการของลูกอีก 2 คนที่ยังรักษาตัวอยู่ คนแรกคือน้องดีดี้นั้นอยู่ระหว่างการผ่าตัด ซึ่งแพทย์บอกว่าถ้าแผลไม่มีการติดเชื้อ ก็จะเอาเหล็กที่ยึดขาออกแล้วใส่เหล็กด้านในแทน แต่ถ้ายังมีการติดเชื้อก็คงได้แค่ล้างแผล ส่วนคนโตคือน้องลูก้าก็ดีขึ้นตามลำดับ สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ แต่ก็ต้องพัฒนาไปเป็นลำดับ ส่วนอาการที่แม่ที่ถูกตบที่มือนั้นมีเส้นข้อมือแตก และมีรอยช้ำสีดำ 2 จุดที่แขนด้านหลัง

>> แม่เด็ก 4 พี่น้องตกตึก อ้างสามีฝรั่งบีบแขนจนอักเสบ ข่มขู่ซ้ำหลังเสียลูกอีกคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook