ลูกค้าร้องเรียนบริษัทประกัน "ลักไก่ลดเงินปันผล" อ้างเศรษฐกิจไม่ดี
ผู้เอาประกันแบบอยุธยาสะสมทรัพย์ร้อง คปภ. หลังพบบริษัทลักไก่ลดเงินปันผลโดยไม่บอกลูกค้า อ้างเศรษฐกิจไม่ดี ผู้เอาประกันต้องตรวจสอบให้ชัดเจนหากพบพิรุธต้องเร่งให้บริษัทแก้ไขให้ถูกต้อง หวั่นกระทบเมื่อครบกำหนดเอาประกันจะไม่ได้เงินตามที่ตกลง
นายฉัตรไชย สุรัสสนันท์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ถ.พหลโยธิน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง หอบหลักฐานเข้าร้องสื่อมวลชนเพื่อให้เตือนไปยังผู้เอาประกันแบบสะสมทรัพย์ระยะยาว ให้ตรวจสอบเงินปันผลที่บริษัทผู้รับประกันคำนวณให้แต่ละปีว่าตรงตามที่ได้ตกลงไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่
เพราะเชื่อว่าคนที่ทำประกันส่วนใหญ่จะไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องนี้ จะตัดสินใจทำประกันเพราะความเข้าใจและตกลงในขั้นแรกคือใบเสนอขายที่ผู้ขายประกันนำมาเสนอเท่านั้น เมื่อตกลงทำประกันไปแล้วก็จะมาตรวจสอบอีกครั้งคือใกล้วันครบกำหนด อาจจะ 10 ปี 20 ปี หรือบางครั้งถึงอายุ 90 ปี
ซึ่งเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์แน่นอน เมื่อได้รับมาก็เก็บไว้ในตู้ในลิ้นชักแทบทุกคน ดังนั้นจึงถือว่าเสี่ยงเป็นอย่างมาก จึงขอให้ตรวจสอบจำนวนเงินสำหรับคนที่ทำประกันไว้แต่ยังไม่ครบกำหนดเวลา หรือคนที่ครบกำหนดเวลาไปแล้ว และอาจจะได้รับเงินปันผลไม่ครบตามกรมธรรม์ ซึ่งตนเองเจอกับตัวเองหลังทำประกันไว้ 2 ฉบับกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง
สำหรับของตนเองที่ได้ร้องเรียนไปยัง คปภ.จังหวัดลำปาง เนื่องจากพบว่าทางบริษัทประกันคำนวณเงินปันผลขาดไม่ตรงกับกรมธรรม์ จำนวน 2 ฉบับ ซึ่งเป็นแบบสะสมทรัพย์ทั้งคู่ โดยฉบับแรกตนเองทำประกันในปี 2540 แบบสะสมทรัพย์ 20 ปี ซึ่งครบกำหนด 28 ก.ค. 60 ตามใบเสนอขาย เมื่อครบกำหนดตนเองจะต้องได้รับเงินปันผลสะสมทั้งสิ้น 1,376,362 บาท
แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลาทางบริษัทกลับมีการคำนวณเงินปันผลให้ตนเองเพียง 1,280,237.64 บาท ขาดไป 96,124.36 บาท หลังมีการโต้แย้งไป ทางบริษัทได้ยื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตนเองยื่นคำร้องไปยัง คปภ.จังหวัดลำปาง ให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และท้ายสุดทางบริษัทประกันตกลงจ่ายเงินที่ขาดทั้งหมดจนเต็มจำนวนให้ตนเองเมื่อเดือน พ.ย. 60
หลังจากนั้นตนเองได้ตรวจสอบกรมธรรม์อีก 1 ฉบับที่ทำไว้คือแบบตลอดชีพ 90 ปี ซึ่งจะครบกำหนดเมื่อตนเองอายุ 90 ปี ก็พบว่าทางบริษัทมีการคำนวณเงินปันผลไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกเช่นกัน คือทั้งสองกรมธรรม์จะพบว่ามีการลดเงินปันผลใน 2 ช่วงคือ ระหว่างปี 2548-2549 และ 2552-2553
โดยบริษัทอ้างว่าผลกำไรขาดทุน ทำให้ลดเงินปันผลโดยที่ลูกค้าไม่ยินยอม ซึ่งตนเองได้ทักท้วงให้ทางบริษัทแก้เอกสารที่ส่งมาให้ลูกค้าในรายละเอียดการคำนวณเงินปันผลให้ถูกต้องตามกรมธรรม์ เนื่องจากเกรงว่าหากครบกำหนดและตนเองเกิดล้มหายตายจากไปก่อน ผู้ที่จะรับเงินปันผลตามกรมธรรม์ซึ่งไม่รู้เรื่อง ก็จะถูกบริษัทลักไก่จ่ายเงินไม่ตรงตามกรมธรรม์ แต่บริษัทกลับอ้างว่ายังไม่ครบกำหนดเวลา ทำให้ตนเองต้องร้องไปยัง คปภ.เพื่อให้บริษัทดำเนินการแก้ไขจำนวนเงินปันผลให้ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
“ฉบับแรกผมไม่ติดใจแล้ว เพราะบริษัทยอมคืนเงินมาให้ แต่ฉบับที่ 2 ยังไม่ครบกำหนด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไร หากทางบริษัทยังคงคำนวณเงินปันผลของเราผิดตั้งแต่ปี 48 เป็นต้นมา หลังจากนั้นจำนวนเงินก็จะผิดไปทั้งหมดจนกว่าจะครบกำหนด ซึ่งของตนเองหากบริษัทไม่แก้ไขให้ถูกต้องเมื่อครบกำหนดจะถูกบริษัทลักไก่และเงินปันผลจะหายไปเป็นจำนวนล้านกว่าบาท หากเป็นแบบนั้นตนคงยอมไม่ได้ที่จะให้บริษัทที่ถือว่าต้องมีความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าแต่กลับมาทำแบบนี้
ซึ่งตนเชื่อว่าในปี 48-49 และ 52-53 ต้องมีผู้ทำประกันที่ครบกำหนดไปอีกจำนวนมาก และอาจจะไม่ได้ตรวจสอบเงินปันผลว่าบริษัทจ่ายให้ถูกต้องหรือไม่ จึงอยากให้ลูกค้าทุกท่านลองไปรื้อดูเอกสารกรมธรรม์และดูเงินที่ท่านได้รับว่าบริษัทจ่ายครบหรือไม่ หากไม่ครบก็ใช้สิทธิ์เรียกร้องเอาคืนได้ หากบริษัทประกันซึ่งลูกค้าฝากความเชื่อมั่นในอนาคตไว้กลับมาทำแบบนี้ แล้วลูกค้าจะเชื่อมั่นได้อย่างไร” นายฉัตรไชย กล่าว