โชเฟอร์เป็นหวัด นอนตายเป็นศพท้ายรถบัส เพราะลืมแง้มหน้าต่าง

อุทาหรณ์คนนอนหลับบนรถ โชเฟอร์รถทัวร์ป่วยเป็นหวัด รีบกินยาเข้านอนเอาแรง แต่ลืมเปิดแง้มหน้าต่างเอาไว้ พบเป็นศพอยู่ท้ายรถ เด็กรถอีกคนรอดชีวิตมาหวุดหวิด

เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณที่ราชพัสดุ ตรงข้ามโรงเรียนสตรีภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร.ต.ท.สมคิด อ่อนจันทร์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จงภูเก็ต แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรม จ.ภูเก็ต ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ นายสุราษฏร์ อายุ 52 ปี พนักงานขับรถมินิบัส ชาว จ.พัทลุง

จากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่าอยู่ในท่านอนหงาย น้ำลายฟูมเต็มปาก เสียชีวิตอยู่ที่เบาะหลังด้านท้ายสุดของรถมินิบัส คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2-4 ชั่วโมง ตามร่างกายไม่พบบาดแผลที่ถูกทำร้ายหรือที่จะทำให้เสียชีวิตได้ เบื้องต้นคาดจะตายเพราะขาดอากาศหายใจหรือหายใจไม่ทัน เนื่องจากผู้เสียชีวิตป่วยเป็นไข้หวัดด้วย

โดย นายสุราษฎร์ ได้ขับรถผู้โดยสารมาจาก จ.พัทลุง มาถึง จ.ภูเก็ต เมื่อคืนวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยหลังส่งผู้โดยสารโดยที่ บขส.จ.ภูเก็ต แล้ว จึงนำรถมาจอดพักนอนที่บริเวณดังกล่าว เพื่อพักผ่อนก่อนที่จะนำรถวิ่งรับผู้โดยสารจาก จ.ภูเก็ต ไปส่งยัง จ.พัทลุง ต่อไป

นายสุราษฎร์ ได้เข้านอนที่บริเวณเบาะท้ายสุดหลังรถมินิบัสตั้งแต่ช่วงกลางคืน โดยไม่ได้เปิดประตู-หน้าต่างหรือประตูบันไดทางขึ้นไว้แต่อย่างใด เปิดเพียงพัดลมไว้เท่านั้น

จากการสอบเด็กท้ายรถทราบว่า นายสุราษฏร์ ได้เข้านอนตามปกติ โดยตนนอนอยู่เบาะหน้ารถ ส่วน นายสุราษฏร์ นอนอยู่เบาะหลังรถ ก่อนนอนได้กินยาพาราเซตามอลลดไข้และนอน ส่วนตนมารู้สึกตัวเมื่อลูกน้องเก่าของนายสุราษฏร์มาเคาะเรียกที่กระจกหน้ารถ เพื่อถามหานายสุราษฏร์ ตนจึงตะโกนเรียกนายสุราษฏร์หลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ

ต่อมาจึงเดินไปดูก็พบว่าปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จึงเรียกเพื่อนๆ ที่จอดรถอยู่ข้างมาดูและพบว่าไม่มีชีพจรแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว โดยปกติแล้วเวลานอนนั้น จะแง้มกระจกหรือเปิดประตูไว้ แต่เมื่อคืนขับรถมาถึงดึกและง่วงนอนมาก จึงอาบน้ำและเข้านอนเลย

ประกอบช่วงเวลานั้นฝนตกจึงไม่แง้มกระจกหน้าต่างและประตูเอาไว้ กระทั่งเผลอนอนหลับยาว แต่ยังเคราะห์ดีที่ตนรอดชีวิตมาได้ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบนอนบนรถโดยไม่เปิดกระจกเอาไว้ ทำให้ขาดอากาศหายใจ ประกอบกับผู้เสียชีวิตป่วยไม่สบายด้วย ยิ่งทำให้สถานการณ์เสี่ยงมากขึ้น