ชีวิตลำเค็ญ 22 ชีวิตอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆ ย่าออกปากสั่งห้ามมีลูกอีก

เปิดบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวมากถึง 22 คน อัดกันอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ผุพัง ทั้งลูกหลานเหลนเยอะไปหมด ผู้เป็นย่าต้องสั่งห้ามมีลูกอีก วอนขอชุดนักเรียนให้เหลนได้มีโอกาสทางการศึกษา

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 183 หมู 8 ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีครอบครัวยากจนอยู่รวมกัน 5 ครอบครัว เด็กๆ กว่า 10 คน อาศัยอยู่ภายในบ้านที่ทรุดโทรมและใกล้ผุพัง

จากนั้นผู้สือข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง มุงด้วยสังกะสีผุพัง เวลาฝนตกก็ต้องหลบฝน บริเวณใต้ถุนบ้านแบ่งห้องชั่วคราว ทั้งห้องครัวและที่นอน ชั้นบนเป็นที่นอนของเด็กๆ ซึ่งในบ้านหลังนี้อาศัยอยู่รวมกัน 5 ครอบครัว รวม 22 คน

ประกอบด้วย เด็ก 9 คน อายุระหว่าง 5 เดือน ถึง 14 ปี ผู้นำแต่ละครอบครัวประกอบอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป 4 คน รายได้คนละ 250-300 บาทต่อวัย รายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพและค่าเล่าเรียนของเด็กๆ นอกจากนี้ห้องน้ำมีห้องเดียวต้องเข้าคิวกันรอกันนานมาก

นางกุ้งฝอย แช่มเพ็ชร อายุ 78 ปี ในฐานะเป็นย่าและย่าทวดของเด็กๆ กล่าวว่า ตนมีลูกชาย 1 คน หญิง 4 คน ปัจจุบันมีลูกสาวคนโตที่อยู่ด้วย แต่เป็นอัมพฤกษ์ไม่มีอาชีพ ต้องคอยหุงหาอาหารให้กิน ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็ออกไปทำงานที่อื่นกันหมด และเสียชีวิตไป 1 คน

ลูกชายมีหลานก็เอามาให้เลี้ยง 4 คน พอหลานมีครอบครัว ก็มีเหลนมาให้เลี้ยงอีกหลายคน ด้วยความที่ไม่มีเงินไปสร้างบ้านใหม่อยู่กัน จึงต้องมาอาศัยอยู่รวมกันที่บ้านหลังนี้ ตนได้บอกหลานๆ ให้หยุดมีลูกกันได้แล้ว เพราะตนเลี้ยงไม่ไหวอีกต่อไป

ขณะนี้เหลนที่ไปโรงเรียนได้มี 6 คน เรียนอยู่โรงเรียนอนุบาลสรรคบุรี 5 คน และโรงเรียนชุมชนวัดโคกดอกไม้ 1 คน พยายามบอกเหลนให้ไปโรงเรียน แต่เขาก็บอกกลัวครูตี เพราะไม่มีรองเท้านักเรียนใส่ไปโรงเรียน

ตอนนี้อยากให้ช่วยเหลือเด็กๆ เพราะไม่ค่อยมีเงินไปโรงเรียน ชุดนักเรียนก็ไม่มี ค่าจ้างรถไปส่งโรงเรียนคนละ 300 บาทต่อเดือน เมื่อสัปดาห์ก่อนครูมาตามที่บ้านสอบถามว่าทำไมไม่ให้หลานไปโรงเรียน ก็เลยบอกไปว่าอยากให้ไป เขามีเครื่องแต่งตัวไม่ครบ ทั้งที่จริงๆ ตนก็ไม่อยากให้ขาดเรียน

ส่วนเวลานอนเด็กๆ จะนอนรวมกันบนบ้าน ส่วนคนโตนอนข้างล่าง อาหารการกินเท่าที่หามาได้ ตามมีตามเกิด บางวันเด็กๆ ก็ไม่ได้กินข้าวเช้า ต้องให้เงินไปซื้อข้าวเหนียวกินเป็นอาหารเช้า ให้คนละ 20 บาท แม้บางครั้งไม่มีเงินก็ต้องไปขอยืมคนแถวใกล้บ้านมาให้หลานไปโรงเรียนก่อน พอเงินคนแก่ออกก็เอาไปใช้หนี้เขา

บางครั้งหากต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนต้องให้ไปคนละ 50 บาท ได้เบี้ยคนชรามา 700 บาท ต้องไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ เกือบหมดแล้ว ส่วนเรื่องทางเข้าบ้านยังลำบากที่ต้องเดินผ่านบ้านน้องสาวและเพื่อนบ้านอีก รวม 3 หลัง ที่ดินข้างบ้านเป็นของพี่ๆ น้องๆ ก็ขายไปแล้ว และได้มีการล้อมรั้วลวดหนามไว้

ขณะนี้บ้านน้องสาวที่อยู่ด้านหน้าติดถนนก็ได้ขายที่แล้วเช่นกัน ยังไม่ทราบว่าเจ้าของที่คนใหม่จะยอมให้ผ่านที่หรือไม่ หากเขาไม่ให้ผ่านคงต้องพึ่งพาหน่วยงานให้ช่วยหาทางออกให้ แต่ยังไม่รู้จะไปหาใคร

ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญอยากให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนางกุ้งฝอย สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ชื่อบัญชี นางกุ้งฝอย แช่มเพ็ชร เลขที่บัญชี 124-0-13065-1