พท.หลุดกลางสภาลั่นถ้าอยู่ดินแดงจะบึ้มรถแก๊ส

พท.หลุดกลางสภาลั่นถ้าอยู่ดินแดงจะบึ้มรถแก๊ส

พท.หลุดกลางสภาลั่นถ้าอยู่ดินแดงจะบึ้มรถแก๊ส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส.ส.เพื่อไทยน็อตหลุดกลางสภา ลั่น "ถ้าอยู่ดินแดงจะบึ้มรถแก๊สเลย"ออกตัวแทนม็อบไม่ตั้งใจป่วนแค่เลือดร้อน แถมยังถูกมือมืดปลอมตัวโยนบาป "สาทิตย์"เดือดจวก"ฝ่ายค้าน"บิดเบือนมโหฬาร ยันรัฐจัดฉากไม่ได้ โชว์รูปคนขับรถ"นิพนธ์"อนาถสุดๆ หน้ายับ ถูกเสื้อแดงแทงด้วยธงทะลุหลังคารถ สวนแกนนำแดงจ้องปลุกระดมสร้างความรุนแรงฝ่ายเดียว รัฐไม่เคยปิดสื่อ

(22เม.ย.) ที่รัฐสภาการประชุมร่วมสองสภา ในช่วงบ่ายเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงทำไปโดยบริสุทธิ์ ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่มีการเตรียมการก่อความวุ่นวาย แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มอื่นที่เข้ามาแทรกแซง รวมกับความโกรธแค้นของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมถึง 3 แสน แต่สื่อรายงานว่า 8 - 9 หมื่นคน ทำให้ผู้ชุมนุมมีอารมณ์ไม่พอใจ ส่วนกรณีแท็กซี่ปิดถนนอนุสาวรีย์ ก็เพราะความต้องการยุติการประท้วงโดยเร็ว เป็นความเลือดร้อน แต่เมื่อคิดได้วันรุ่งขึ้นก็สลาย นอกจากนี้คนเสื้อแดงปลอมได้ขับรถแก๊สไปจอดไว้ที่แฟลตดินแดงก่อนนำไปจอดที่บริษัทคิงพาวเวอร์ ถ.รางน้ำ

"ถ้าเป็นผม ผมคงระเบิดแอ่งเลย และยอมตายพร้อมกับระเบิดไปแล้ว แล้วยังมีคนเสื้อแดงปลอมยังได้ขับรถประจำทางไปขวางถนน ทั้งที่มีทหารตั้งด่านจำนวนมาก นี่ถือเป็นการเล่นละครใส่กัน เพื่อให้เสื้อแดงเสียหายมากที่สุด ส่วนการลอบยิงมัสยิด ถ.เพชรบุรี นั้นตนเห็นว่าเป็นแค่ประเด็นทางการเมือง เนื่องจากคนที่มานั่งแถลงในตอนหลังก็เป็นคนของรัฐบาล"นายสุรพงษ์กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ภายหลังเหตุการณ์ความรุนแรงในสังคมไทยก็มีแต่ข่าวลือ ข่าวปล่อย โดยระบุว่าขบวนการที่เสื้อแดง เสื้อเหลืองออกมาสู้กันจะทำให้เสื้อน้ำเงินครองเมืองและมีนายทหารใหญ่อยากเป็นนายกฯ จึงปล่อยให้เสื้อแดงบุกพัทยา เพราะต้องการให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ยุบสภา นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหานายใหญ่ของตนในแง่ร้ายว่าเป็นคนปลุกปั่นให้ประชาชนก่อจลาจล ทั้งที่นายกฯทักษิณอยู่เมืองนอกและต้องการเห็นประชาธิปไตยเกิดในประเทศไทย แม้กระทั่งการที่ได้วีซ่านิการากัวก็เอามาเล่นข่าวเป็นตุเป็นตะ อยากถามว่ากลัวอะไรกันนักหนา

"รัฐบาลต้องเอาความจริงมาพูดกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ ต้องเปิดใจให้กว้าง การเสนอข้อมูลข่าวสารต้องมีความรอบคอบและเป็นกลางอย่างแท้จริง อย่าปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ถ้าเป็นอย่างนั้นสังคมไทยเดินต่อไปไม่ได้ วันนี้รัฐบาลต้องรับความจริงว่าได้ทำความรุนแรงกับประชาชนเกินกว่าเหตุและอย่าใช้สื่อโกหกประชาชนว่าไม่มีคนตาย ปิดหู ปิดตาประชาชน วันนี้รัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือและนายกฯ หมดความชอบธรรมแล้ว ต้องแสดงความผิดชอบด้วยการยุบสภาคืนอำนาจประชาชนน่าจะเป็นทางออกที่ดี ตัดสินใจเถอะครับเพื่อบ้านเพื่อเมือง"นายสรุพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายนายสุรพงษ์ได้นำภาพถ่ายต่างๆ ในเหตุสลายการชุมนุมวันที่ 13 เม.ย.ทั้งจากหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ พร้อมกันนี้ยังได้นำกะทะล้อรถเมล์ที่เป็นรูขนาดใหญ่ โดยยืนยันว่าถูกยิงด้วยลูกกระสุนเอ็ม 16 ของทหารระหว่างการสลายการชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายตอนหนึ่งนายสุรพงษ์ได้นำภาพถ่ายนายเนวิน ชิดชอบ ที่นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์สำรวจสถานการณ์หน้าที่อ.พัทยา ในวันประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน โดยระบุว่าไม่แน่ใจว่าภาพนี้จะทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ไม่พอใจหรือไม่ แต่นายชัย บอกว่า "ไม่หรอก แต่อยากให้ค่อยๆพูดกลัวเส้นเลือดโลหิตจะแตก"

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สั่งการกลุ่มเสื้อสีน้ำเงินให้ทำร้ายกลุ่มเสื้อแดง ว่า ภาพของตนที่ปรากฎต่อสาธารณะในคืนวันที่ 10 เม.ย.นั้นอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกเทศมนตรีเมืองพัทยา รวมทั้งประชาชนชาวพัทยาที่เขาชักชวนกันมาเพื่อต้องการจะให้การประชุมสำเร็จ โดยอาสามายืนเป็นเพื่อนตำรวจทหาร ส่วนนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ร่วมปฎิบัติการเพราะขณะนั้นต้องเตรียมการเพื่อพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว. กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุการณ์ตนได้ให้นโยบายกับเจ้าหน้าที่การแพทย์ไปว่าต้องปฏิบัติต่อผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นสีใดฝ่ายใด และการออกมาให้สัมภาษณ์อาการป่วยของแพทย์ก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ไม่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อภิปรายว่า ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินการอภิปรายที่บิดเบือน และใช้ข้อมูลเท็จมากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะในประเด็นที่กล่าวหาว่ารัฐบาลใช้สื่อเพื่อสื่อสารด้านเดียว แต่ในข้อเท็จจริงสื่อมวลชนได้ทำงานตรงไปตรงมา รัฐบาลไม่เคยปิดกั้น แต่ข้อเท็จจริงคือฝ่ายที่พยายามใช้สื่อเพื่อสร้างประเด็นในเกิดความรุนแรงขึ้นมาในสังคมคือแกนนำผู้ชุมนุม โดยเฉพาะคนที่อยู่เบื้องหลังคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีถ้อยคำที่เกิดความรุนแรง เช่นคำพูดว่า ถ้าไม่ขุดรากถอนโคนประชาธิปไตยก็ไม่เกิด ขณะที่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมก็มีคำพูดเช่น ถ้าดีสเตชั่นถูกปิดกูจะเผาตรงนั้นตรงนี้ มีการพาดพิงถึงคุณแม่ผู้นำประเทศ เมื่อประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 9 เม.ย.ก็บอกว่าจะปิดล้อมพัทยาไม่ให้มีการประชุม รวมทั้งการประกาศว่า จะจับอภิสิทธิ์มาแล้วบีบบังคับให้มันลาออก นอกจากนี้ยังมีบันทึกเป็นหลักฐานว่าแกนนำได้พูดพาดพิงสถาบันอันเป็นที่เคารพอย่างชัดเจน

"ตลอดหลายวันที่ผ่านมาต้องชมสื่อทุกแขนงที่ทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา ขอยืนยันว่าภาพที่ผู้ชุมนุมถือระเบิดเพลิง รถนายกฯและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กระทรวงมหาดไทยนั้นสร้างฉากไม่ได้ คำถามคือถ้าเกิดกระจกรถถูกทุบแตกจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้นำประเทศ นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ เล่าให้ฟังว่าสถานการณ์เลวร้ายมาก มีการขู่เอาชีวิต ขว้างก้อนหินขนาดใหญ่เข้าไปในรถ คนขับรถโดนด้ามธงที่ผู้ชุมนุมกระทุ้งลงมาจากหลังคารถ สร้อยคอหาย เงินในกระเป๋าถูกล้วงไปหมด จะหาว่าสร้างภาพได้อย่างไร มันคือของจริง"นายสาทิตย์ กล่าวพร้อมแสดงภาพคนขับรถนายนิพนธ์ที่ยับเยิน ใบหน้าเจิ่งนองไปด้วยเลือด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook