หัวอกลูก “แพท ณปภา” ทำใจอาการป่วยคุณแม่ ถ้าทำได้ขอยืดเวลานานที่สุด

ถือเป็นอีกหนึ่งสาวแกร่ง ที่หลายคนยกให้เป็นไอดอล สำหรับ แพท-ณปภา ตันตระกูล นักแสดงสาวมากความสามารถ ที่ถึงแม้เวลาอยู่หน้าจอเธอจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับแฟนๆ ด้วยมุขตลกขำขัน

แต่ทว่าชีวิตหลังกล้อง นอกจาก แพท ณปภา จะต้องทำหน้าที่เป็นคุณแม่ลูกอ่อน ที่ดูแลลูกชายวัยขวบเศษ น้องเรซซิ่ง แบบเต็มเวลาแล้ว เธอก็ยังทำหน้าที่ดูแลคนสำคัญในชีวิตอย่าง คุณแม่จุฑาพัชร์ ฤกษ์เกษมสันต์ คุณแม่ของเจ้าตัวอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แฟนๆ หลายต่อหลายคน ยกให้เธอเป็น นางเอกยอดกตัญญู ของวงการบันเทิง

>> "แพท ณปภา" เผยภาพประทับใจ รอยยิ้มของแม่ในวันแต่งงาน

โดยล่าสุดในงาน ไอออร่า ไทยแลนด์ นักแสดงสาวอารมณ์ดี แพท ณปภา ก็ได้ออกมาเผยถึงอาการป่วยล่าสุดของคุณแม่ที่แฟนๆ ยังคงติดตามข่าวกันอย่างต่อเนื่อง กับบรรดาสื่อมวลชนว่า…

“สำหรับอาการป่วยของคุณแม่ตอนนี้ก็ตามวัยค่ะ คือแพทไม่ได้เก่งแบบคุณหมอนะ แต่เท่าที่เห็นคือคุณแม่มีอาการชักบ่อยขึ้น และพอคุณแม่ได้ยากันชักท่านก็ตอบสนองน้อย ดังนั้นทางเลือกที่คุณหมอให้ก็คือการใส่สายให้อาหาร ซึ่งแพทรู้สึกไม่โอเค เพราะแพทมองว่าการใส่สายมันอาจจะส่งผลหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการดูแล การติดเชื้อ หรือสกปรกต่างๆ รวมถึงแกจะยิ่งไม่ต้องใช้ระบบอะไรแล้ว เพราะสายมันจะไหลไปลงกระเพาะเลย ไม่ต้องเคี้ยวไม่ต้องกลืน"

IG pat_napapaภาพถ่ายครอบครัว แพท ณปภา ยิ้มหวานพร้อมหน้า

"ดังนั้นยังไงแพทก็ยังอยากจะป้อนข้าวแม่ด้วยตัวของแพทเอง ซึ่งแพทก็นะคะ…ไปลดยาของแม่เอง เพราะอยากให้ท่านฟื้นตัว อยากให้ท่านขยับตัวบ้าง แต่พอเราลดยาแล้วท่านก็มีอาการชัก พอชักปุ๊บแพทก็ต้องพาท่านไปส่งโรงพยาบาล และคุณหมอก็ถามเรื่องยาขึ้นมา ซึ่งตอนนี้แพทก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องยังไง แต่อย่างที่บอกพอให้ยาตามที่คุณหมอบอก อาการของคุณแม่ก็จะตอบสนองช้าลง เช่น ไม่เคี้ยว ไม่กลืน มันก็เลยทำให้แพทกังวล”

“ณ ตอนนี้คุณแม่ยังอยู่ที่บ้านค่ะ แพทยังไม่อยากให้ท่านไปอยู่โรงพยาบาล และถ้าเป็นไปได้แพทก็จะขอดูแลอยู่ที่บ้านเองดีกว่า เนื่องจากตอนนี้คุณแม่ไม่มีสติหรือรู้ตัวแล้ว ท่านก็เป็นเหมือนผู้ป่วยที่ติดเตียงมานานแล้ว เพราะท่านเดินไม่ได้ ดังนั้นการดูแลคุณแม่จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องใหญ่ๆ ที่แพทจะต้องคิดว่าแพทควรทำยังไงต่อไป ถามว่าเครียดไหม เอ่อ…เอาจริงๆ เราดูแลคนป่วย เราเองก็เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ขอให้ช้าที่สุดได้ไหม ยอมรับค่ะว่าตอนนี้ทำใจ แต่ขอให้ช้าที่สุดก็พอ”

ขณะที่ทางด้านกระแสข่าวเกี่ยวกับสามีนักบิด เบนซ์-อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง หลังมีข่าวออกมาว่า เจ้าตัวไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจสามีในวันขึ้นศาล จนหลายคนตีความว่าเป็นการตอกย้ำกระแสข่าวรักร้าวปิดฉากชีวิตคู่

ทางด้านของ แพท ณปภา ก็ได้ออกมายืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวน่าจะเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน เพราะในวันนั้นตัวเธอเองได้ส่งลูกชาย น้องเรซซิ่ง ไปให้กำลังใจคุณพ่อก่อน และจึงค่อยเดินทางตามไปภายหลังจากเสร็จภารกิจการทำงานในช่วงเช้า จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้เจอกับบรรดาสื่อ ซึ่งตัวเธอเองเข้าใจได้หากเรื่องนี้จะทำให้หลายคนสงสัย และเกิดเป็นประเด็นดราม่า

IG pat_napapaวันหวานๆ ในอดีตระหว่าง แพท ณปภา และ เบนซ์ เรซซิ่ง

“ครั้งล่าสุดก็คือส่งลูกไปก่อนไปให้พี่เบนซ์ได้อุ้ม ส่วนตัวแพทตามไปทีหลัง เนื่องจากแพทติดทำรายการเลยไม่สามารถลาไปได้ ซึ่งพอแพทเดินทางไปถึงปุ๊บก็คุยกันนิดๆ หน่อยๆ และพี่เบนซ์ก็บอกว่า แพทมาไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ให้เอาลูกมาแทน (หัวเราะ) แต่ตามข่าวที่บอกว่าแพทไม่ได้ไป อันนี้แพทคิดว่ามันน่าจะคลาดเคลื่อน เพราะแพทแค่ไม่ได้เดินทางไปตั้งแต่เช้า แต่พอพี่เบนซ์ลงจากบัลลังก์แพทก็ไปถึงตอนนั้นพอดี ซึ่งเอาตรงๆ แพทไม่ไปไม่ได้ เพราะแพทต้องไปรับลูก”

“ถามว่าแพทกลัวดราม่าไหม ไม่กลัวนะคะแพทเข้าใจ ณ จุดนี้เวลาที่คนดราม่า เพราะเขาอาจจะไม่ได้เข้าใจรายละเอียดลึกซึ้งสักเท่าไหร่ รวมถึงถ้าเขาไม่ได้อยู่ในจุดของเรา เขาพูดได้ไม่ครบอยู่แล้วค่ะ หรือถ้ากลับกันหากเขามายืนอยู่จุดที่แพทยืนอยู่ เขาอาจจะพูดอะไรไม่ออกเลยก็ได้”

“พูดถึงอาการน้องเรซซิ่งตอนที่ได้เจอหน้าคุณพ่อ ถ้าตามที่คุณย่าเล่านะคะเหมือนพี่เบนซ์เองก็ดีใจที่ลูกยังให้เขาอุ้มอยู่ ถือว่าสบายใจได้ ซึ่งแพทมองว่ามันเป็นเรื่องของสายสัมพันธ์ด้วยนะ แต่ถามว่าเขาจำได้ไหม อาจจะยากเหมือนกันเพราะเรซซิ่งไม่ได้เจอพ่อมาตั้งเขาอายุ 3 เดือน แต่ตอนนี้เขาอายุ 1 ขวบ กับ 4 เดือนแล้ว เท่ากับว่าเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ ที่เขาไม่ค่อยได้เจอกัน ส่วนทางด้านพี่เบนซ์เองก็คิดถึงลูก และก็อย่างที่เขาบอกถ้าหากแพทติดงานหรือมาไม่ได้ ก็ขอให้พี่เลี้ยงช่วยพาลูกไปหาเขาแทน นอกจากนั้นแพทก็ยังส่งภาพน้องเรซให้เขาทางจดหมาย เพื่อให้เขาเก็บติดตัวไว้เหมือนกัน”

IG pat_napapaโมเมนต์พ่อลูกของ เบนซ์ เรซซิ่ง และน้องเรซซิ่ง

“ในส่วนของคดีความแพทคิดว่าคงเร็วๆ นี้แล้วแหละ และตัวแพทเองก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน คือพูดตามตรงเลยนะพอแพทแยกออกมาจากบ้านของพี่เบนซ์ และมาอยู่บ้านตัวเอง มันก็ทำให้การที่แพทได้พูดคุยกับครอบครัวของเขาน้อยลงมาจริงๆ เพราะถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเราแทบไม่ได้สื่อสารกันเลย ดังนั้นถ้าถามว่าเร็วๆ นี้เรื่องคดีจะมีแนวโน้มที่ดีไหม ก็อย่างที่บอกแพทยังไม่เห็นข้อมูลอะไรเลย นอกจากรอให้ทางคุณแม่ของพี่เบนซ์ นัดให้แพทได้คุยกับทนายของพี่เบนซ์ค่ะ”

>> “แพท ณปภา” ย้ำชัดยังรัก “เบนซ์ เรซซิ่ง” แจงเหตุผลต้องพาลูกออกจากบ้านฝ่ายชาย

“ความรู้สึกที่มีต่อพี่เบนซ์ ณ วันนี้ กับวันแรกยังเหมือนเดิมไหม เอ่อ…ถ้าถามใจแพท แพทบอกเลยนะคะว่ายังรักและเป็นห่วง แต่แค่ความผูกพัน สายสัมพันธ์มันหายไป และบวกกับคู่เราเริ่มต้นเร็วทุกอย่างมันเร็วไปหมด มันก็เลยทำให้แพทบอกกับเขาตรงๆ ว่า ถ้าหากเราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก เราก็คงต้องมาคุยกันอีกยาวเลย ซึ่งตัวแพทเองก็ทำใจเอาไว้แล้วในหลายๆ ด้าน เนื่องจากเรามีลูกแล้ว เราจะคิดแค่ด้านเดียวไม่ได้หรอกค่ะ”

“อีกอย่างคือแพทไม่ได้มีแค่ลูกเท่านั้น แพทมีอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตมากที่เกิดขึ้นกับแพท ไหนจะครอบครัว ไหนจะอาการป่วยของคุณแม่ และภาระหลายๆ อย่าง จากที่ก่อนหน้าที่เรามองว่าเราอยู่ได้ แต่วันนี้แพทก็บอกกับเขาตรงๆ ว่า แพทอยู่แบบนี้ไม่ได้ เราต้องมานั่งคุยกัน เพราะถ้าอยู่แบบเดิมไม่ได้ เราจะอยู่แบบไหน”

>> “แพท ณปภา” ชีวิตยังต้องสู้ เผยความสัมพันธ์ “เบนซ์ เรซซิ่ง” ไม่ชัดเจน จะจบหรือไปต่อ

>> "แพท ณปภา" อุ้มน้องเรซซิ่ง เยี่ยมพ่อ "เบนซ์" ฝากคำสอน “อย่าดื้อกับแม่นะลูก”