พลังโซเชียลช่วยเด็กถูกรถอีแต๋นทับกระดูกขาแหลก ยอดบริจาคทะลุล้าน
พลังจากโซเชียลเมืองไทย แห่บริจาคเงินช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 13 ปี ถูกรถอีแต๋นเฉี่ยวทับขากระดูกแหลก หลังจำเป็นต้องใช้ในการผ่าตัด ล่าสุดยอดเงินพุ่งทะลุ 1.2 ล้านบาท
(16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถอีแต๋น บริเวณถนนในหมู่บ้านบ้านโนนดู ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนหญิง อายุ 13 ปี อาการค่อนข้างสาหัส เพราะขาซ้ายท่อนล่างถูกกระแทกอย่างรุนแรง นำส่งต่อโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และอาจจะต้องตัดขาทิ้ง
ขณะที่ทางแพทย์แจ้งว่ายังสามารถที่จะรักษาได้ แต่ต้องส่งไปรักษายังโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก ทางญาติพี่น้องก็หวังว่าจะสามารถรักษาได้ เพื่ออนาคตของเด็ก และมีการนำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ขอความเมตตาจากผู้ใจบุญร่วมสมทบเงิน เพื่อนำไปเป็นค่าผ่าตัด ล่าสุดปรากฏว่ามีผู้ร่วมบริจาคช่วยเหลือเข้ามาแล้วกว่า 1.2 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พบ ด.ญ.ชวนดาว รัตนารถ อายุ 13 ปี ยังนอนรักษาตัวอยู่ตึกธรรมรักษา ชั้น 2 โดยมีญาติๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
น.ส.น้ำผึ้ง รัตนารถ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นญาติได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า น้องอาศัยอยู่กับพ่อที่ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีก ส่วนแม่ได้แยกทางกับพ่อเด็กไป และยังมีพี่สาวอยู่อีกคน แต่ก็แยกไปมีครอบครัวแล้ว และยังยังส่งเงินและค่าใช้จ่ายให้กับน้องดาวและพ่อมาโดยตลอด
ก่อนเกิดเหตุ น้องดาวขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะไปเก็บดอกไม้ เตรียมนำไปไหว้ครูที่โรงเรียน ซึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุในครั้งแรกคิดว่าอาจจะต้องตัดขาทิ้ง แต่หมอบอกว่าขาน้องเสียหายเพียงกระดูกและเนื้อบางส่วนเท่านั้น แต่เส้นประสาท เอ็น และเส้นเลือด ยังไม่เสียหายมาก อาจจะไม่ต้องตัดขาทิ้ง แต่จะต้องทำการผ่าตัดรักษาโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นล้านบาท
อีกทั้งยังจะต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องอีกประมาณ 3 ปี ตนและญาติๆ ได้เห็นว่าถ้าสามารถรักษาได้ก็เลยอยากส่งน้องไปรักษา เพื่ออนาคตของน้องที่ยังต้องไปอีกไกล จึงตัดสินใจนำเรื่องราวไปโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีการแชร์ส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ขณะนี้มีผู้ใจบุญโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือมากกว่า 1.2 ล้านบาท ทำให้ตนและญาติๆ ไม่คิดว่าจะมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคช่วยน้องเป็นจำนวนมากขนาดนี้
น.ส.น้ำผึ้ง เปิดเผยต่อว่า เงินจำนวนดังกล่าว อาจจะดูเป็นเงินจำนวนมาก แต่การผ่าตัดรักษาจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเช่นกัน ประกอบกับจะต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปี อาจจะยังคงต้องขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญ กระทั่งน้องจะได้รับการผ่ารักษา และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
หลังจากนั้นหากเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคมาช่วยเหลือมายังคงเหลือ ก็จะนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ต่อไป หากท่านใดประสงค์ที่จะบริจาคช่วยเหลือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรบูรณ์ เลขที่ 643-0-42511-8 ชื่อบัญชี ด.ญ.ชวนดาว รัตนารถ หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 093-2361460
คำเตือน คลิปวิดีโอดังกล่าวมีเนื้อหาในบางช่วงบางตอนเป็นภาพอุบัติเหตุน่าหวาดเสียว โปรดใช้ความระมัดระวังในการรับชม