เมียฆ่าผัว ฮุบเงินประกัน2ล.

ฆาตกรรม อำพรางหนุ่ม ฮุบเงินประกัน หนุ่มวัย 23 ปีดวงถึง ฆาตโดนเมียสาววัย 19 ปีกับแม่ยายวางแผนฆ่าโหด หวังฮุบเงินประกันชีวิต 2.6 ล้านบาท โดยให้ครูซึ่งเป็นลุงวางแผนฆ่าผัว โดยอำพรางเป็นจมน้ำตายขณะหาปลา แต่ญาติ ผู้ตายไม่เชื่อแจ้งตร.สืบสวนจนรู้ความจริงว่าโดนฆาตกรรม จับเมียกับแม่ยายมาสอบเค้นจนสารภาพหมดเปลือก ทนไม่ไหวผู้ตายเกียจคร้านไม่ทำงานทำการ แถมยังทุบตีเมียบ่อยๆ

เมื่อ วันที่ 22 เม.ย. พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รอง ผบช.ภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รอง ผบก.ศสส.ภาค 4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศสส.ภาค 4 พ.ต.ท.ไพโรจน์ แสงอรุณ รอง ผกก.ศสส.ภาค 4 และตำรวจ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ร่วมแถลงจับกุมนายประเวทย์ พรหมหลวง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270/8 หมู่ 7 ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นครูโรงเรียนขยายโอกาสบ้านนาคำ อ.บ้านดุง, นางบังอร พลเทียน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 319/53 หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี, นางคำพอง พรหมหลวง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 13 ต.เชียงแหว อ.กุม ภวาปี จ.อุดรธานี และน.ส.พวงเพ็ชร พลวาปี อายุ 19 ปี ลูกสาวนางบังอร

นอกจากนี้ ยังสามารถยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุอีกจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนขนาด .38 ทะเบียน กท.39110117, กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 42 นัด, ปลอกสวมอาวุธปืน 1 ปลอก, รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน บจ 637 หนองบัวลำภู, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ที่ใช้ในการติดต่อวางแผนฆ่า และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 07.30 น. ตำรวจ สภ.เพ็ญ รับแจ้งพบศพนายเอกพันธ์ คันธะไชย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 9 ต.หนองแวง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เป็นสามีของน.ส.พวงเพ็ชร และเป็นลูกเขยของนางบังอร มีศักดิ์เป็นหลานเขยของนายประเวทย์ ที่หนองน้ำศรีเจริญ หมู่ 1 ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเหลือง-ดำ ทะเบียน กยน 667 กระบี่ ข้องใส่ปลา มีปลาช่อน 2 ตัว และแห 1 ปาก

จากการสืบสวนสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ พบพิรุธหลายอย่างในที่เกิดเหตุ อีกทั้งพ่อแม่ของ ผู้ตายสงสัยในสาเหตุการตาย ไม่เชื่อว่าจมน้ำ ประกอบกับผู้ตายเป็นคนเกียจคร้าน เกเร ไม่เคยทำมาหากิน เมื่อชันสูตรพลิกศพผู้ตายอย่างละเอียด จึงทราบว่าถูกทำร้ายด้วยของแข็งไม่มีคมจนเสียชีวิต ก่อนจะจมน้ำตาย เนื่องจากไม่พบน้ำอยู่ในปอด

พ.ต.อ.ยรรยงกล่าวว่า หลังจากนั้นตำรวจ ศสส.ภาค 4 สืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบว่านายเอกพันธ์รู้จักกับน.ส.พวงเพ็ชร เมื่อ ปลายปีพ.ศ.2551 เมื่อญาติฝ่ายภรรยารู้จึงจับแต่งงานกัน เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2552 และจดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 12 ม.ค. นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่ามีการทำประกันชีวิตให้นายเอกพันธ์ จำนวน 4 บริษัท โดยทำประกันชีวิตในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.ที่ผ่านมา มีนายประเวทย์เป็นผู้จัดทำให้ส่วนหนึ่ง มีน.ส.พวงเพ็ชร ภรรยาเป็นผู้รับประโยชน์ รวมยอดเงินประกันชีวิตจาก 4 บริษัท จำนวน 2,600,000 บาท ทำให้ตำรวจนำตัวผู้เกี่ยวข้อง และญาติทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวน แต่ละคนให้การขัดแย้งกัน ทั้งในเรื่องที่อยู่ และตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง

ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศสส.ภาค 4 กล่าวว่า กระทั่งเจ้าหน้าที่สอบปากคำนางทองพูน น้องสาวของนางบังอร หนึ่งในผู้ต้องหา ทำให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันวางแผนฆ่านายเอกพันธ์ โดยมีนายประเวทย์เป็นคนวางแผน และจัดหาทีมฆ่า พร้อมทั้งสร้างพยานหลักฐานอำพรางคดีให้เป็นอุบัติเหตุจมน้ำตาย จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และศาลจังหวัดอุดรธานีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัว นางบังอร และน.ส.พวงเพ็ชร ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังจากนั้นไปจับกุมนายประเวทย์ได้ที่หน้าร.พ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม และจับกุมนางคำพองได้ที่ อ.กุมภวาปี พร้อมยึดของกลาง รถกระบะ อาวุธปืน และกระสุนปืนได้ในรถของนายประเวทย์

พ.ต.อ.ยรรยงกล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำนายประเวทย์ และนางคำพอง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนางบังอรและ น.ส.พวงเพ็ชรให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าวางแผนฆ่านายเอกพันธ์ เนื่องจากเป็นคนเกียจคร้าน ไม่ทำมาหากิน และยังทุบตีน.ส.พวงเพ็ชร โดยนางบังอรโทรศัพท์ไปหานายประเวทย์ เพื่อให้วางแผนฆ่านายเอกพันธ์ กระทั่งวันเกิดเหตุ นางบังอร และน.ส.พวงเพ็ชร พานายเอกพันธ์ไปยังบ้านหลังใหม่ของนางคำพอง พี่สาวนางบังอร และพบกับนายประเวทย์ กับเพื่อนๆ 3 คน ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จากนั้นนายเอกพันธ์นั่งรถกระบะไปกับนายประเวทย์ และเพื่อนชายแปลกหน้าทั้ง 3

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เวลา 20.30 น. นายประเวทย์โทรศัพท์มาบอกนางบังอร ว่าฆ่านายเอกพันธ์เรียบร้อยแล้ว ให้ไปพบกันที่หนองน้ำศรีเจริญ เมื่อนางบังอร และน.ส.พวงเพ็ชร ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงได้พบศพนายเอกพันธ์นอนอยู่ท้ายรถกระบะ ในลักษณะที่ฝาท้ายกระบะเปิดอยู่ จากนั้นนายประเวทย์กับพวกอีก 3 คนช่วยกันลากศพโยนทิ้งในหนองน้ำ แล้วทั้งหมดเดินทางออกจากหนองน้ำ โดยจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ นายประเวทย์มาส่งนางบังอร และ น.ส.พวงเพ็ชร ที่บ้านนางคำพอง ก่อนพากันแยกย้ายกลับบ้านไป

พ.ต.อ.ยรรยงกล่าวอีกว่า ตำรวจควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่เป็นญาติกันทั้งหมดดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดย ไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งนางบังอรแม่ยาย และน.ส.พวงเพ็ชรภรรยาผู้ตาย ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนาย ประเวทย์ และนางคำพอง ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทางตำรวจจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เพ็ญ รวมทั้งจะติดตามจับกุมตัวเพื่อนชายอีก 3 คนของนายประเวทย์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป