"ลำไย ไหทองคำ" ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณนักดนตรี จุดรถตู้เกิดอุบัติเหตุ

ลำไย ไหทองคำ นักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังรับศพพร้อมเชิญดวงวิญญาณที่เกิดเหตุ นายประเมษฐ์ เหมังค์ หรือ โน้ต ปีโป้แบนด์ นักดนตรีประกลับบ้านเกิดจังหวัดหนองคาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง จากกรณีที่เหตุรถตู้โดยสารของคณะนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังลำไย ไหทองคำ ได้ประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกหกล้อของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพัทลุง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 7 ราย โดยเหตุเกิดบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาขึ้น หาดใหญ่-พัทลุง ท้องที่ ม.8 ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง เมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวาน ขณะที่รถตู้คณะนักร้องกำลังเดินทาง ออกจากอำเภอหาดใหญ่เพื่อไปทำการแสดงที่บริเวณงานกาชาดประจำปีของดีเมืองลุง บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมาและงานการแสดงคอนเสิร์ตในงานดังกล่าวของค่ำคืนไม่มีการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังลำไย ไหทองคำ เนื่องจากอยู่ในอาการช็อก กับเหตุการณ์ที่นักดนตรีเสียชีวิตขณะเดินทางมาแสดงที่จังหวัดพัทลุง

>> "ลำไย ไหทองคำ" หลั่งน้ำตากราบศพนักดนตรีประจำวง "อ.โน้ต ปีโป้แบนด์"

ล่าสุด (18 มิ.ย.) วันนี้ทางญาติได้เตรียมรับศพ นายประเมษฐ์ เหมังค์ หรือ โน้ต ปีโป้แบนด์ นักดนตรีหัวหน้าวงแบ็กอัพ กลับไปบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิดจังหวัดหนองคายแล้ว โดยจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดไพรฑ์สนสันติธรรม จ.หวัดหนองคาย

ด้านนักร้องสาวลำไย ไหทองคำ ได้เดินทางมารับศพก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อเชิญดวงวิญญาณนายประเมษฐ์กลับบ้านเกิด พร้อมกล่าวสั้นๆว่า ก่อนเกิดผู้ตายได้กล่าวกับคณะว่าขอให้ทุกคนเดินทางไปข้างหน้า และก่อนเกิดเหตุก็ไม่มีลางสังหรณ์อะไรว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ทางคณะก็ยังเดินต่อไปข้างหน้า และขอให้อาจารย์โน้ตเดินทางไปสู่สุคติ

ส่วนในทางคดีความคืบหน้าล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.พัทลุง ได้สอบปากคำคนขับรถยนต์ตู้พร้อมคณะที่ประสบอุบัติเหตุ เพื่อสอบถามความเป็นมา ซึ่งคนขับรถระบุว่าได้ขับรถยนต์ตู้คันดังกล่าวมาจาก กทม. แล้วมารับคณะที่ อำเภอหาดใหญ่ เพื่อไปทำการแสดงที่จังหวัดพัทลุง ขณะที่ขับมาได้เกิดฝนตก และได้ทำการเบรกรถจนทำให้รถเสียการทรงตัวทำให้แฉลบไปชนท้ายรถบรรทุกหกล้อของการไฟฟ้าริมทาง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรอให้เสร็จงานศพก่อนที่จะเรียกตัวคนขับรถตู้มาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายจราจรต่อไป