“นุ่น วรนุช” แจงอีกรอบ ถูกมองแง่ลบ รวยแล้วทำไมต้องมาเสิร์ฟอาหารเอง
หลังจากที่มีภาพออกมาว่านางเอกสาว นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี และสามีหนุ่ม ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี กำลังช่วยกันดูแลและเดินเสิร์ฟอาหารอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวกลายเป็นภาพน่ารักๆ ออกมาให้แฟนๆ ได้เห็นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังการวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียลในเชิงลบออกมาว่า ทั้งคู่รวยขนาดนี้ทำไมถึงต้องลงทุนทำเอง หรือเป็นเพราะต้องการจะสร้างภาพหรือเปล่า
>>"นุ่น วรนุช" แจงดราม่า 10 ข้อ ภาพขายก๋วยเตี๋ยว "ไม่เคยบอกว่าตัวเองรวย"
ซึ่งล่าสุดในงาน Mariza Clinic นุ่น วรนุช ได้ออกมาชี้แจงต่อหน้าสื่อมวลชนให้ฟังอีกครั้งหลังจากที่เคยโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คมาแล้ว โดยเจ้าตัวได้เผยให้ฟังว่า
ล่าสุดธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวเราลงทุนอย่างไรบ้าง ?
“เราลงทุนไม่ได้เยอะมาก ไม่ได้มีห้องแอร์ เป็นเพิงๆ แล้วก็เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวไก่ และเย็นตาโฟ โดยส่วนตัวแล้วชอบเย็นตาโฟเพราะไม่ทานเนื้อ แล้วก็สูตรก็จะเป็นสูตรของเราเองใส่ซอสต๊อดด้วย เพราะว่าตอนนี้เขาก็อยากทำสนองความต้องการค่ะ เอาง่ายๆ เราก็เป็นฝ่ายชิมคอยดูแลเวลาว่างๆ เพราะคุณต๊อดเขาทำงานประจำกลางวันอย่างนี้เรามีเวลาว่างเราก็จะเข้าไป คือไปกินด้วยแหละค่ะ”
เห็นมีการโพสต์ลงเฟสบุ๊คเพื่อชี้แจงเกิดอะไรขึ้น ?
“จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรค่ะ การทำธุรกิจของคนเราทุกอย่างมันมีความเสี่ยงหมด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ลงทุนน้อย หรือลงทุนมาก แต่วันหนึ่งถ้าเราได้มีโอกาสทำตามฝันของตัวเอง ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง จริงๆ นุ่นยังมีอะไรอีกหลายๆ ฝันนะ มีอีกเยอะแยะมากมาย คือบางคนคิดว่านุ่นรวยมากอะไรอย่างนี้ โอเครวยก็ได้ (ยิ้ม) แต่ว่าการลงทุนมันใช้เงินนะคะ เพราะฉะนั้นนุ่นเป็นคนไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายเยอะแยะอะไรอย่างนี้ค่ะ นุ่นรู้ว่านุ่นมีเท่าไหร่ ออมเท่าไหร่ ต้องใช้เท่าไหร่ มันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจค่ะ ก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงทองหล่ออย่างนี้ เริ่มต้นชามละ 50 บาทอย่างนี้ค่ะ มันก็ค่อนข้างถูกและได้ปริมาณที่เยอะ ถ้าเห็นราคาแล้วเห็นตัวเลขแต่ละเดือนที่เราต้องจ่ายไปเนี่ย กำไรน้อยมากค่ะ แต่ว่าต๊อดเขาก็สนุกที่เขาได้ทำ แล้วก็นอกจากร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ยังมีร้านอาหารอีกซึ่งเป็นอาหารไทยอีกอย่างนี้ค่ะ”
เหมือนเป็นการลบคำสบประมาท ?
“เป็นปกติค่ะ ต่างคนต่างความคิดกันไปค่ะ”
ทำไมเราถึงไปเสิร์ฟเอง ไปทำออเดอร์เอง ?
“ช่วงแรกๆ ค่อนข้างที่จะไม่ค่อยทัน คือพนักงานที่มาเขาต้องมาจูนกับเราด้วย จูนกับลูกค้าด้วย ว่าต้องทำอะไรยังไง คือร้านใหม่ มือใหม่ค่ะ แต่ว่าวันนั้นรู้สึกว่าพี่เจี๊ยบ โสภิตนภา เป็นคนถ่ายสตอรี่ เพราะว่าเป็นลูกค้าแขกค่ะ เขาพูดไทยไม่ได้ พนักงานเลยบอกให้ไปช่วยรับออเดอร์ให้หน่อย อธิบายให้เขาฟัง เขาไม่ทานหมู คือที่นี่ไม่มีหมูอยู่แล้ว เราอธิบายให้ฟัง เขาก็ทานไก่”
อย่างการทำร้านอาหาร อาจจะมีปัญหาเยอะ เราก็เจอมาบ่อย ทำไมถึงยังตัดสินใจจะทำต่อ ?
“เป็นปกติค่ะ แต่ว่าในส่วนของตรงนี้เราบริหารกันเองร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ มันค่อนข้างสนุกดี อย่างที่บอกว่ามันเป็นร้านเล็กๆ ต้องไปทานกันนะคะ (ยิ้ม)”
พอได้ชี้แจงไปแล้ว มันยังมีเรื่องราวอะไรต่อเนื่องมาอีกไหม ?
“ยังไม่ได้ตามเลยค่ะ ผลตอบรับนะคะ คือคนมาตามร้านก๋วยเตี๋ยวกันมากขึ้น ขอบคุณนะคะ (ยิ้ม)”
คนอาจจะมองว่าโปรโมทร้านหรือเปล่า ?
“ไม่หรอกค่ะ ไม่ได้คิดขนาดนั้น เราโปรโมท เราก็โปรโมทในไอจีได้ แต่นี่นุ่นไม่ได้ลงในไอจีนะคะ คือเฟสบุ๊คเป็นพื้นที่เล็กๆ ของนุ่น จริงๆ ก็ไม่ค่อยได้มีเพื่อนในนั้นเท่าไหร่ด้วยค่ะ”
เหมือนคนจับสังเกตเรื่องคอนเนคชั่นเรื่องการรับงาน พี่ส้มจุก หายไป เป็นอีกคนเข้ามาแทน ?
“คือพี่ส้มจุกไม่ใช่ผู้จัดการส่วนตัวนะคะ แต่คนจะเข้าใจว่าเหมือนเป็นเลขานะคะ ง่ายๆ คือผู้จัดการจะเป็นพี่สาว คุณนุ้ย ที่เห็นไปไหน มาไหน ด้วย แต่งานละครเขาจะไม่ไป เขาจะไปงานอื่นๆ มีงานของ วอร่า ด้วยที่เขาต้องดูแล แต่พี่ส้มจุกก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดค่ะ”
ไม่ได้มีการเปลี่ยนผู้จัดการ ?
“อยากให้เปลี่ยนเหรอคะ (ยิ้ม) ไม่เปลี่ยนค่ะ”
พอคนมองว่าชื่อหายไป มีผลกระทบบ้างไหม ?
“ไม่มีเลยค่ะ ไม่มี ไม่มีคนสับสนค่ะ เพราะคนที่ติดต่อกันอยู่แล้วก็ติดต่อกันเป็นสิบๆ ปีแล้วค่ะ”
จะรับละครยาวไหม ?
“รออยู่ค่ะ”
เลือกบทมากขึ้น ?
“โดยธรรมชาติก็อยากจะเลือกบทที่เราอยากเล่น แต่ก็ยังอยากรับอยู่นะคะ ตอนนี้ก็มีซิทคอมศึกรักข้ามรั้ว แต่ซิทคอมก็ไม่ง่าย วันหนึ่งก็ถ่ายทั้งตอน ในเรื่องของจังหวะ แต่มันก็สนุกนะคะ เป็นงานใหม่ที่เราต้องเรียนรู้เหมือนกัน ฟีดแบกดีค่ะ เล่นกับพี่ป้องด้วยค่ะ เป็นคาเรคเตอร์ที่ทะเลาะกันข้ามบ้าน เคยเป็นแฟนเก่ากันมา โชคดีที่เล่นกับพี่ป้อง กล้าตี กล้าแหย่ พี่ป้องก็จะแบบเธอเล่นจริงตลอดเลย ก็บ่นๆ ค่ะ งานแสดงยังมีให้เห็นเรื่อยๆ ค่ะ”
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ