ตร.แจงคดี 2 เด็กหญิงถูกตาข่มขืนมาราธอน 3 ปี เรื่องถึงอัยการแล้ว

ตำรวจบางน้ำเปรี้ยว แจงคดี 2 เด็กหญิงถูกตาเลี้ยงข่มขืนนาน 3 ปี คดีไม่คืบหน้า เผยล่าสุดได้ส่งสำนวนไปถึงชั้นอัยการแล้ว

พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก. สภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้เชิญตัวนางแดง (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี และนางชมพู่ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สองพี่น้องฝาแฝดซึ่งเป็นมารดาของเด็กหญิงวัย 11 ปี และ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 และ ม.1 ซึ่งถูกนายไชย์วัตน์ อายุ 58 ปี สามีใหม่ของผู้เป็นมารดา หรือ ยายของเด็ก (ตาเลี้ยง) กระทำการข่มขืนอนาจารหลานสาวทั้งสองคนอย่างต่อเนื่องมานานถึง 3 ปีเต็ม

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นภายในบริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา มาทำการพุดคุยชี้แจงถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน หลังจากทางฝ่ายของผู้ปกครองได้ทำการร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน และไม่ได้รับคำชี้แจงให้รับรู้ถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังคงพบเห็นตัวผู้ต้องหา ได้ขับรถเข้ามาวนเวียนผ่านที่บริเวณหน้าบ้านพักของเหยื่อผู้เสียหายอยู่เป็นประจำ

หลังการพูดคุย นางแดง ได้กล่าวเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้ตนซึ่งเป็นมารดาของเด็กหญิงวัย 11 ปี พร้อมพี่สาวฝาแฝดซึ่งเป็นมารดาของเด็กหญิงวัย 12 ปี มาทำการชี้แจงทำความเข้าใจถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา โดยทางตำรวจได้ทำการชี้แจงว่า ขณะนี้ ร.ต.อ.สมเจตน์ แตรวิจิตร รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดี ได้ยื่นสำนวนส่งไปถึงยังชั้นอัยการแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากนี้ก็จะเป็นอำนาจหน้าที่ของทางพนักงานอัยการที่จะทำการสั่งฟ้องคดีต่อไป

ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ทางตำรวจจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปตรวจคอยดูแลความปลอดภัยให้ สำหรับการอนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกมาได้นั้น เป็นดุลยพินิจของศาลในการอนุญาตให้ประกันตัว โดยทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "กระทำการข่มขืนอนาจาร และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต่อผู้ต้องหา ซึ่งทาง พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ได้เข้าร่วมพูดคุยชี้แจงอยู่เป็นเวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะบอกว่าจะต้องรีบออกไปประชุม และได้เดินทางออกไปจากโรงพัก สภ.บางน้ำเปรี้ยว ในทันที

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองได้ให้บุตรสาวพร้อมด้วยหลานสาวทั้งสองคนมาพักอาศัยอยู่กินและเรียนหนังสืออยู่กับผู้เป็นยาย และพ่อเลี้ยงของตนในบ้านเช่าแห่งนี้รวม 4 คน โดยตนและพี่สาวฝาแฝดได้ไปทำงานอยู่ในกรุงเทพ และ จ.ปทุมธานี จนไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นกับบุตรสาวและหลานมาก่อน จนมาทราบภายหลังว่าบุตรสาวได้ลูกผู้ต้องหาซึ่งเป็นตาเลี้ยงทำการข่มขืนมาแล้วนานถึง 1 ปีเต็ม และหลานสาวถูกข่มขืนมานานถึง 3 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา

จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกดำเนินคดีต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทันได้หลบหนีกลับไปยังที่บ้านเกิด ที่หมู่บ้านนาโพธิ์ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ แต่ตนและชาวบ้านยังคงพบเห็นว่าผู้ต้องหานั้น ยังกลับมาขับรถวนเวียนผ่านอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพักอยู่เป็นประจำบ่อยครั้ง จึงรู้สึกว่าบุตรสาวและหลานสาว รวมทั้งมารดาของตนจะไม่ปลอดภัย จนเกิดความไม่สบายใจดังกล่าวขึ้น

ซึ่งในขณะนี้สภาพจิตใจของบุตรสาวของตนและหลานสาวยังไม่ค่อยดีนัก จึงได้ให้ย้ายไปอยู่กับตนเอง ส่วนหลานสาวนั้นก็ยังคงอยู่กับผู้เป็นยาย จึงเกรงว่าจะได้รับอันตราย และขณะนี้จึงได้ทำการย้ายโรงเรียนไปเรียนที่อื่นแล้วทั้งสองคน เพื่อให้สภาพจิตใจของเด็กทั้งสองคนดีขึ้น ผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองคนเผย