อภิสิทธิ์ ไม่ห่วงคนเสื้อแดงม็อบรอบใหม่

อภิสิทธิ์ ไม่ห่วงคนเสื้อแดงม็อบรอบใหม่

อภิสิทธิ์ ไม่ห่วงคนเสื้อแดงม็อบรอบใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ห่วงเสื้อแดงประกาศชุมนุมรอบใหม่ วอนขอให้อยู่ภายใต้ รธน. แนะให้นำเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมาเป็นบทเรียน บัวแก้วเร่งประชาสัมพันธ์ยกเลิกพรก.ฉุกเฉินให้ต่างประเทศรู้ เอกชนภูเก็ตมั่นใจเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนได้ ทส.สั่งสอบระดมป่าไม้ร่วมเสื้อแดง โฆษกมท. ชี้มีคนใช้เงินทำลายประเทศ

เมื่อเวลา 16.30 น.24 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศ ชุมนุมใหญ่อีกครั้งที่ท้องสนามหลวงในช่วงเย็นของวันที่ 25 เม.ย. ว่า ก็ขอให้เป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ และไม่คิดว่าเป็นการท้าทายหลังมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าเป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นปัญหาอะไร และขอให้ทุกฝ่ายเก็บเกี่ยวบทเรียนในช่วงที่ผ่านมาว่าการชุมนุมต้องอยู่ใน กรอบของเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในสังคม

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะมีการใช้เวทีดังกล่าวบิดเบือนข้อมูลการ ชุมนุมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าเรารอดูเหตุการณ์ อย่าไปด่วนสรุปว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตนยังเชื่อว่าคนส่วนใหญ่และสังคมก็ต้องช่วยกันให้การใช้สิทธิต่างๆอยู่ในขอบ เขต

ต่อข้อถามว่าการประกาศชุมนุมอีกครั้งเป็นการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มเสื้อแดงยัง ไม่ยอมหยุด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องการใช้สิทธิ์ เราคงต้องยอมรับสิทธิตรงนี้ แต่อย่างที่ได้บอกเรามีบทเรียนซึ่งก็เป็นปัญหา ถ้าหากเราไม่ยอมเรียนรู้ว่าถ้าใช้สิทธิ์เกินขอบเขตและนำไปสู่การลุกลามของ ปัญหาคนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือทุกฝ่าย เพราฉะนั้นขอให้ผู้ชุมนุมใช้ความระมัดระวัง การใช้สิทธิ์ก็จะไม่เป็นปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าในส่วนของแกนนำควรจะมีการดูแลผู้ชุมนุมอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "แนวคิดจุดยืนก็เหมือนเดิมทุกอย่าง"

บัวแก้วเร่งประชาสัมพันธ์ยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรียกเลิกประกาศ พรก.ฉุกเฉิน เมื่อเที่ยงวันนี้ (24 เม.ย.) ว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่แสดงว่า สถานการณ์กลับสู่สภาวะการณ์ที่รัฐบาลมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินเผยแพร่ประกาศดังกล่าวผ่านทางเว็ปไซด์ กระทรวงการต่างประเทศ และแจ้งไปยังสื่อต่างประเทศโดยทันที เนื่องจากการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน มีบริษัทท่องเที่ยวต่างชาติ พยายามผูกโยงเงื่อนไขให้เข้ากับการไม่รับประกันภัยกับนักท่องเที่ยวที่เดิน ทางมาประเทศไทย โดยการประกาศยกเลิก พรก.ดังกล่าวทำให้เงื่อนไขนี้ถูกยกเลิกทันทีเช่นกัน

นายธฤต กล่าวอีกว่า ส่วนแผนงานการฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศนั้น คณะกรรมการส่งเสริมและฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศที่จัดตั้งขึ้นแล้วก็จะทำงานต่อ เนื่องกันไป ภายใต้เงินประงบมาณ 365 ล้านบาทที่มีอยู่แล้ว โดยยังไม่มีการทบทวนของบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก ในมิติด้านการท่องเที่ยวมีความอ่อนไหวสูง จำเป็นต้องย้ำให้นักท่องที่ยวเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยเป็นสำคัญ ส่วนมิติด้านการค้าการลงทุน ขึ้นอยู่กับนโยบายและระเบียบกฎหมายที่รัฐบาลจะกำหนดขึ้น ที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในระยะยาว โดนกระทรวงการต่างประเทศพร้อมจะชี้แจงค่างชาติ

เอกชนภูเก็ตมั่นใจเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนได้

นพ.ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินของ รัฐบาล ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา แต่เนื่องจากปัจจุบันปัญหาเศรษฐกิจได้ผูกโยงกับเรื่องของการเมือง ดังนั้นต่อจากนี้จะต้องมีคำตอบออกมาให้ได้ว่าจะมีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในรูปแบบใด หรือหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดำเนินการในมาตราใดบ้าง ซึ่งจะต้องทำให้มีความชัดเจนเพื่อสังคมเกิดความสงบสุข เพราะเมื่อการเมืองไม่มีปัญหาเชื่อว่าทุกอย่างจะดีตามไปด้วย

"สำหรับภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว จากที่ได้ติดตามสถานการณ์พบว่ายังดีกว่าจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากห่างไกลจากจุดที่เกิดความไม่สงบ สิ่งสำคัญคือสถานการณ์ทุกอย่างจะต้องนิ่ง อย่างสร้างปัญหาหรือความตื่นตระหนกให้เกิดขึ้น เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ" นพ.ศิริชัย กล่าว


ด้านนายกิตติ นิ่งน้อย ผู้จัดการ &Senior Vice President ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ภาคใต้ 1 กล่าวถึงการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล ว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติ เพราะจะทำให้เห็นว่าสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายแล้ว และคาดว่าจะทำให้มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

"จากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริการจนลุกลามไปทั่วโลก รวมถึงปัญหาความไม่สงบภายในประเทศได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในภาคใต้เช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งเป็นธุรกิจหลัก แม้ว่าในการปล่อยสินเชื่อยังคงมีอยู่ แต่การพิจารณาจะมีความรอบคอบมากขึ้น และพบว่าการลงทุนก็มีการเปลี่ยนรูปแบบไปอยู่ในลักษณะของการซื้อกองทุนที่ มีดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากเงินปกติ"

นายกิตติ กล่าวด้วยว่า สำหรับภูเก็ตคิดว่าไม่น่ามีปัญหามากนัก เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ดังนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้โดยเร็วไม่น่าจะเกินต้นปีหน้า เพราะหากพิจารณาจากภาวะวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซาร์ ไข้หวัดนก หรือสินามิ ภูเก็ตก็สามารถฟื้นตัวได้โดยเร็ว ด้วยแบรนด์ของความเป็นภูเก็ต

ขณะที่นายสมชาย พิกุลทอง ประธานฝ่ายแผนงาน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จ.ภูเก็ต พังงาและกระบี่ กล่าวว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะ เป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางกลับเข้ามาท่อง เที่ยวในประเทศไทย ซึ่งรวมถึง จ.ภูเก็ตด้วย เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหวและละเอียดอ่อน ซึ่งที่ผ่านมาจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกและปัญหาความไม่สงบในประเทศได้ก่อให้ เกิดการชะลอด้านการลงทุนโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวขาดมีความมั่นใจ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามากขึ้น

ทส.สั่งสอบระดมป่าไม้ร่วมเสื้อแดง

นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งจากนายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ และนายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยทั้งสองหน่วยงานยืนยันว่าไม่มีคนของ 2 กรมนี้เข้าร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงตามที่เป็นข่าว แต่ตนได้สั่งการให้ให้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งได้ทำรายงานต่อนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว. ทส. ด้วย

เมื่อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีคนของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยกำชับไปแล้วว่าในฐานะข้าราชการที่มีหน้าที่รับใช้ประชาชน ขอให้วางตัวเป็นกลางกับทุกฝ่าย ซึ่งทางกรม กองต่างๆในทส.ก็ได้มีการประชุมและทำความเข้าใจกันและให้ยึดปฏืบัติอย่าง เคร่งครัด รวมทั้งมีการคาดโทษกับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมืองด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสบายใจหลังจากมีข่าวออกมาทางสื่อมวลชน ทส.สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด

แหล่งข่าวจากกระทรวงทรัพยากรระบุว่า การขนเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป่าไม้เพื่อร่วม ขบวนการเสื้อแดงนั้น มีควาเมป็นไปได้ เนื่องจากที่ผ่านมา นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯเคยมีภาพไปร่วมม๊อบที่สวนลุมพินี เพื่อไล่ม๊อบพันธมิตรในปี 2549 ช่วงที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติคนปัจจุบัน ยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมอุทยานฯในช่วงดังกล่าว ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระดมม๊อบจำนวนมาก อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการนำเจ้าหน้าที่มา ร่วมในครั้งนี้หรือไม่

"โฆษกมท."ชี้มีคนใช้เงินทำลายประเทศ

ที่จ.ระยอง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคง และโฆษกกระทรวงมหาดไทยฝ่ายราชการ กล่าวในการจัดงานประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน จ.ระยอง "ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะน่าตกใจ เพราะมีบุคคลบางฝ่ายพูดจาบจ้วงดูหมิ่นจารีตประเพณี ประชาชนมีการแบ่งแยกแบ่งสี ซึ่งประเทศไทยไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และที่ผ่านมาก็มีคนบางกลุ่มใช้ความร่ำรวยที่มาด้วยความปกติ ใช้เงินไม่เป็นคุณต่อแผ่นดิน ทำให้ประเทศชาติมีปัญหา นอกจากนี้ยังมีการลบหลู่องค์มนตรี ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ในหลวงแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย ดังนั้น เราต้องร่วมมือกันทำให้ทุกอย่างสงบโดยเร็ว

ชวรัตน์เชื่อแก้รธน.จะทำให้รัฐบาลอยู่ยาวถึง 2 ปี

มื่อเวลา 15.00 น. ที่ว่าการอำเภอปลวกแดง จ.ระยอง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมการจัดงานวันฉัตรมงคล ในวันที่ 5 พ.ค.ว่า ตนไม่ได้กำหนดให้คนที่เข้ามาร่วมงานต้องใส่เสื้อสีน้ำเงิน ทุกคนจะใส่เสื้อสีไหนก็ได้ แต่ที่กระทรวงมหาดไทย จัดงานคนเสื้อสีน้ำเงิน เพราะเห็นว่าเป็นสีของสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ก็ไม่ได้บังคับ ซึ่งเชื่อว่าจะมีคนมาร่วมงานในวันที่ 5 พ.ค. ประมาณ 1.2 แสน - 2 แสนคน แต่ไม่มีการบังคับให้แต่ละจังหวัดว่าจะต้องเกณฑ์คนมาร่วมงาน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสมัครใจ

นายชวรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหาราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า การที่นายกฯประกาศยกเลิก น่าจะเกิดจากการพิจารณาแล้วว่าถึงเวลาที่ควรยกเลิก เพราะสถานการณ์ความไม่สงบลดน้อยลง ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีปัญหาเกี่ยวกับจิตวิทยาของนักท่องเที่ยว ที่กลัวว่าเมื่อประเทศประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วจะ ไม่มีใครมาเที่ยว นอกจากนี้หลังจากการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ 2 วัน เชื่อว่าทุกอย่างจะเบาบางลง โดยแต่ละจังหวัดก็ไม่มีการรายงานของกลุ่มคนเสื้อแดงมาก่อความวุ่นวาย และคงมีคนมาก่อกวนลดลง อย่างการมาราชการที่ อ.ปลวกแดงก็ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมา ก่อกวน ส่วนการชุมนุมใหญ่ของ นปช. ที่สนามหลวง คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร และไม่หวั่นว่า จะมีมือที่ 3 มาก่อเหตุ และคงไม่มีการบุกรุกเข้ากระทรวงมหาดไทยอีก เพราะคนทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจแล้วว่า ทุกอย่างไม่มีประโยชน์อะไร สิ่งที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าไม่มีใครได้ประโยชน์อะไร จึงอยากให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง อย่างไรก็ตามได้วางแผนรองรับเพราะที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์

นายชวรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องประเด็นการเสนอตั้งคณะกรรมการร่วมของสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไข ปัญหาความวุ่นวาย และคณะกรรมการร่วมพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่นายกฯเสนอต่อสภา ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และทราบว่าจะให้ตัวแทนพรรคร่วมเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย แต่ก็ยังไม่มีการประสานมา ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คงต้องพิจารณาตามเสียงส่วนใหญ่ เพราะการแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลา และทุกประเด็นที่มีข้อถกเถียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรา 237 ในเรื่องการยุบพรรคก็ต้องคุยกัน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และยังไม่รู้ว่าจะแก้มาตราใดบ้าง ต้องดูและฟังเสียงส่วนใหญ่และผ่านการประชาพิจารณ์ อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะคลี่คลายปัญหาของสังคมได้ เพราะเหมือนกับปมที่ต้องแก้ไปเรื่อย และจะทำให้รัฐบาลอยู่ครบวาระอีก 2 ปี ส่วนเรื่องเสื้อสีน้ำเงินที่ถูกนำไปโยงตนไม่คิดว่ามีปัญหา เพราะหากไปดูซีดีแล้วก็จะรู้ว่าถูกปรักปรำ ส่วนที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ระบุว่ามีตำรวจมาใส่เสื้อสีน้ำเงินด้วยนั้น ตนไม่ได้ยินที่นายบุญจงพูด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย สาธิต ปิตุเตชะ นายธารา ปิตุเตชะ นายวิชัย ล้ำสุทธิ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาร่วมงานดังกล่าวด้วย นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าประชาชนที่สวนใหญ่ ที่เข้าร่วมงานไม่ได้สวมเสื้อสีน้ำเงินเหมือนกับประชาชนอย่างที่การจัดงานปก ป้องสถาบันในหลายจังหวัดที่ผ่านมา และไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาสร้าง สถานการณ์แต่อย่าใด ขณะเดียวกัน กรมการปกครองได้นำเจ้าหน้าที่รักษาดินแดน(อส.) จำนวน 20 นาย ที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษมารักษาความปลอดภัยให้กับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ อย่างเข้มงวด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook