ผอ.ขับรถมองไม่เห็นเด็ก ป.6 นั่งผูกเชือกรองเท้า กลิ้งเจ็บอยู่ใต้ท้องรถ

ผอ.ขับรถมองไม่เห็นเด็ก ป.6 นั่งผูกเชือกรองเท้า กลิ้งเจ็บอยู่ใต้ท้องรถ

ผอ.ขับรถมองไม่เห็นเด็ก ป.6 นั่งผูกเชือกรองเท้า กลิ้งเจ็บอยู่ใต้ท้องรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กนักเรียนหวิดดับ ผู้อำนวยการโรงเรียนขับรถมาส่งภรรยา มองไม่เห็นทับเด็ก ป.6 กำลังนั่งผูกเชือกรองเท้า บาดเจ็บกลิ้งเข้าใต้ท้องรถ

(21 มิ.ย.) พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีเหตุรถยนต์ทับนักเรียนบาดเจ็บที่โรงเรียนมุกดาลัย จังหวัดมุกดาหาร พร้อมกับขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ตัดถ่างจากกู้ภัย จึงได้เดินทางพร้อมด้วย พ.ต.ท. พ.ต.ท.คเชนทร์ พันนุมา ร้อยเวร สภ.เมืองมุกดาหาร ไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ พบรถกระบะนิสสัน สีบรอนซ์ ทับเด็กนักเรียนติดใต้ท้องรถ บริเวณถนนทางเข้าโรงเรียน

พ.ต.อ.ชัยพร กล่าวว่า ได้รับรายงานมีเหตุรถยนต์ชนเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนมุกดาลัย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบแต่เพียงกองเลือด ถัดจากประตูรั้วของโรงเรียนเข้ามาประมาณ 20 เมตร และทางเข้าเป็นเนินลงจากถนน ทราบข้อมูลจากครูเวรว่า นายสมัย แก้วเสนา ผอ.โรงเรียนบุ่งอุทัยได้ขับรถไปที่โรงเรียน เพื่อส่งภรรยาทำงานซึ่งเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว

แต่ขณะที่ขับรถเข้าไปโรงเรียนนั้น ได้มีเด็กนักเรียนชาย อายุ 12 ปี ชั้น ป.6 ได้นั่งผูกเชือกรองเท้าอยู่ ปรากฏว่าทาง ผอ.สมัย มองไม่เห็น จึงได้ขับมาชนหลังจากนั้นมีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรจราจรได้เข้าไปให้การช่วยเหลือ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและคุณครูที่อยู่ใกล้เคียงในบริเวณดังกล่าว ได้เข้ามาช่วยกันนำร่างเด็กออกมา ในขณะนั้นคุณครูบอกว่า ขาเด็กนั้นหักผิดรูปคาดว่าจะบาดเจ็บสาหัส เคราะห์ดีที่โรงพยาบาลมุกดาหารอยู่ตรงหน้าโรงเรียน

ผกก.สภ.เมืองมุกดาหาร กล่าวต่อไปอีกว่า จากนั้นได้ไปเยี่ยมที่ห้องฉุกเฉิน ก็ได้พูดคุยกับคุณหมอ ทราบว่าจะมีการผ่าตัดขา เพื่อใส่เหล็กคาดว่าน่าจะเกินกว่า 20 วัน และในส่วนรูปคดี ให้ร้อยเวรสอบสวนกำชับไห้ดำเนินการตามข้อเท็จจริง ให้เป็นธรรมทุกฝ่าย

ในส่วนของความประมาทก็ต้องดูข้อเท็จจริงอีกว่า ท่าน ผอ.ขับรถมาส่งภรรยา ว่าเป็นความประมาทหรือไม่ หรือสุดวิสัยประการใด แต่ถ้าเป็นความประมาท ร้อยเวรก็ต้องเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 300 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลแขวง

ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร มาดูก่อนว่าถนนดังกล่าวเป็นถนนตาม พ.ร.บ.จราจรหรือไม่ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และจะได้เร่งรัดโดยเร็ว และเป็นไปตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายก็ให้ตกลงกันช่วยเหลือกันตามความยุติธรรม ส่วนประกันภัย และกองทุนผู้ประสบภัยก็คงเข้ามามีส่วนร่วมต่อไป

ขณะที่ นายสมัย หลังจากเกิดเหตุได้ตกใจและเสียใจที่มาเกิดเหตุกับเด็กนักเรียน ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุนี้ขึ้น และได้ไปเยี่ยมและให้กำลังใจกับเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 โรงเรียนมุกดาลัย ที่โรงพยาบาลมุกดาหาร และทราบว่าได้เข้าห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook