“ตั๊กแตน ชลดา" ไม่เข็ด แต่เหม็นรัก! น้ำตาคลอ ไม่เคยคิดอยากได้ความแมนจากอดีตสามี
ได้ออกมาพบเจอสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังจากที่ตัดสินใจเซ็นใบหย่ากับอดีตสามี เพชร สหรัตน์ โดยงานนี้นักร้องสาวลูกทุ่ง ตั๊กแตน-ชลดา ทองจุลกลาง ได้เปิดใจให้ฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ยอมรับตัดสินใจผิดที่โพสต์เรื่องราวทุกอย่างลงโซเชียลให้แฟนคลับได้รับรู้ ตอนนี้ไม่อยากพูดถึงเรื่องราวดังกล่าวอีก อยากให้ทุกคนโฟกัสที่ผลงานและไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง
>> จบด้วยดี! “ตั๊กแตน ชลดา” ย่องเงียบหย่า “เพชร สหรัตน์” แล้ว
ด้านอดีตสามีได้ตัดขาดกันไปแล้ว ได้เคลียร์เรื่องราวทุกอย่างและไม่มีอะไรที่ต้องติดต่อกันอีก พร้อมยอมรับด้วยน้ำตาที่คลอๆ ว่า ไม่หวังอยากได้ความจริงหรือความแมนอะไรจากผู้ชายคนนี้อีกแล้ว สถานะตัวเองตอนนี้โสดสนิท ขอใช้คำว่า “เหม็นความรัก” จะดีกว่า
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เจอสื่อมวลชนหลังจากที่เราโสด ?
“จริงๆ ไม่อยากจะพูดอะไรเลยถึงทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา เพราะแตนมีความรู้สึกว่าแตนอยากเริ่มต้นใหม่มากกว่า เราเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า ดีกว่าวังวนเก็บแต่ความหลังเอามาคิด”
ใช้ระยะเวลานานไหมกว่าจะก้าวผ่านมาถึงวันนี้ ?
“ถ้าให้พูดคำว่าก้าวผ่านไปหรือยัง จริงๆ มันอาจจะยังไม่ได้ก้าวผ่านไปเต็มที่ แต่เราพยายามให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ต้องเสียใจอะไรแบบนั้นแล้ว”
สภาพจิตใจตอนนี้เราอยู่ในระดับไหน ?
“ถือว่าเต็มร้อย และพร้อมที่จะทำงาน พร้อมที่จะต่อสู้ พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาค่ะ”
กับอดีตสามีตัดขาดไปเลยใช่ไหม ?
“เรียกว่าตัดขาดเลยค่ะ”
จุดที่ทำให้เราตัดสินใจเดินออกมาคือเป็นไปตามข่าวเลยใช่ไหม ?
“ค่ะ แตนคิดว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ถ้สถามว่าตัดสินใจถูกแล้วหรือไม่ อาจจะไม่ถูกนะคะ ถ้าเทียบกับสิ่งที่แตนทำลงไป แตนอาจจะทำไม่ถูกในเรื่องที่แตนโพสต์ แต่ตอนนั้นมันเป็นเรื่องของอารมณ์และเรื่องของความเสียใจ มันเป็นสิ่งเดียวที่เราทำแล้วเรารู้สึกโล่งค่ะ และรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ตัวเองโพสต์แบบนั้นออกไป แม้ว่าเรื่องมันจะเป็นความจริงก็ตาม แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
วันที่ตัดสินใจเซ็นใบหย่า เราคิดอะไรอยู่หรือเปล่า ?
“เอ่อ... มันต้องใช้คำว่ามันมาถึงจุดนี้แล้ว เราก็ต้องเลือกที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง”
หลังจากที่เราตัดสินใจหย่า ก็มีแชทหลุดออกมาทำนองว่าเราก็มีคนอื่นเหมือนกัน ?
“ไม่มีหรอกค่ะ แตนก็มีโอกาสได้เห็นแชทหลุดนั้นแล้วค่ะ แตนไม่เคยคิดจะแย่งของใครหรือจะไปคบใครที่จะทำให้ครอบครัวคนนั้นแตกแยกอยู่แล้ว”
ช่วงระยะเวลานั้นเหมือนมีการสาดโคลนกันในโซเชียล เรารู้สึกยังไงที่เรื่องของเราสองคนกลายเป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศรู้ ?
“รู้สึกเสียใจมากกว่าที่เรื่องไม่ดีจะต้องตีแผ่ออกไป เรารู้สึกว่าเราเป็นคนของประชาชนอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับแฟนเพลงมากกว่าสิ่งที่มันแย่ๆ อยากให้ทุกคนไปโฟกัสเรื่องงานมากกว่าที่จะมาโฟกัสเรื่องแย่ๆ แบบนี้ ซึ่งตรงนี้มันก็อาจจะโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวของพวกเราหรือตัวของคนที่ทำเอง และตัวแตนเองที่พลาดพลั้งโพสต์ลงไป ตรงนั้นแตนก็โทษตัวเองจนถึงทุกวันนี้ถึงทุกวันนี้ว่าเราไม่น่าทำ ถึงแม้มันจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ซึ่งก็รู้สึกผิดอยู่”
อะไรที่ทำให้เราหยุดคิดได้ว่า ไม่น่าโพสต์ลงโซเชียลเลย ?
“มันเป็นเรื่องของผลลัพท์ในความรู้สึกของแฟนเพลงมากกว่าค่ะ เพราะทุกวันนี้แตนมีความรู้สึกว่าแตนแคร์ความรู้สึกของคนที่รักแตนจริงๆ ก็คือแฟนเพลง แตนไม่อยากให้เขาผิดหวังในทุกๆ เรื่อง และมองว่าวันนั้นมันเป็นเรื่องที่เราทำไม่ถูกเช่นเดียวกัน อย่างน้อยเราก็ควรจะตีแผ่ในเรื่องที่มันดีๆ”
คนมองว่าเราเป็นอีกคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในความรัก ?
“แตนมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดานะที่หลายคู่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก แต่มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากสำหรับแตน”
ก่อนหน้าที่เราจะแต่งงานก็มีผู้ใหญ่หลายท่านที่ไม่เห็นด้วย พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทำให้เรามองย้อนกลับไปถึงวันนั้นว่าตัดสินใจถูกไหม ?
“จริงๆ ถ้าเรื่องของการแต่งงานที่ว่าผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยตอนนั้น ยังไม่มีใครพูดออกมาในทำนองว่าไม่เห็นด้วยนะคะ แต่มีแต่คนคอยเตือนๆ เล็กน้อยว่าพี่เขาเจ้าชู้นะ แต่ด้วยความที่เราคุยกับเขารู้เรื่อง เราตกลงกันในแบบฉบับที่ว่าจะหยุดนะ”
แสดงว่าความผิดครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจับได้ ?
“ค่ะ”
ณ ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องเคลียร์ หรือต้องเกี่ยวข้องกับเขาอีกไหม ?
“ตอนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย เพราะสิ่งต่างๆ แตนเลือกที่จะเดินออกมา คือเราแมนมากค่ะ”
เราไม่เอาทรัพย์สินอะไรเลยเหรอ ?
“ไม่ค่ะ”
ชื่อหมู่บ้านก็เป็นชื่อเราที่เขาตั้งให้ ?
“อันนั้นไม่เกี่ยวกับเขาค่ะ แต่เรื่องทุกๆ อย่างที่ก่อร่างสร้างอะไรมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพย์หรือแม้แต่หนี้สินก็ตาม เราเลือกที่จะรับผิดชอบของเราเองทุกอย่าง และอะไรที่เป็นของเขา เราก็ไม่เอา”
สินสมรสร่วมกัน ได้แบ่งเรียบร้อยไหม ?
“ก็ลงตัวค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร”
>> เพชร สหรัตน์ เอ่ยขอโทษ ตั๊กแตน ที่ทำให้ต้องเจ็บปวดหัวใจ
หนี้สินเกิดจากอะไร ?
“หลายๆ คนอาจจะไม่รู้เนอะ เพราะแตนก็ไม่เคยพูดไป จริงๆ ไม่อยากพูดต่อนะ ไม่รู้จะพูดต่อทำไม”
มูลค่าเยอะถึงหลักล้านไหม ?
“เยอะค่ะ และทุกคนอาจจะมองว่า แตนมีหนี้สินคนเดียว”
ช่วงที่มีเรื่องก็จะมีการโพสต์โต้ตอบกันเรื่องหนี้สิน เหมือนเขาว่าเราเป็นคนเอาหนี้เข้ามา เราอยากชี้แจงไหม ?
“ตอนนี้แตนคิดว่า แตนไม่ได้อยากได้ความแมน หรือความจริง แตนไม่อยากได้อะไรจากผู้ชายคนนี้แล้วทั้งนั้น เพราะแตนคิดว่า(น้ำตาคลอ) แตนไม่สามารถหาอะไรได้อีกแล้ว ”
หลังจากเราตัดสินใจไป ตอนนี้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง ?
“ดีขึ้นมาก และรู้สึกว่าถึงเรายังเจ็บอยู่ลึกๆ แต่วันนี้มันดีขึ้นมาก เราก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว ถึงแม้เรายังมีน้ำตาซึมๆ บ้างเวลามีคนถาม แต่เราดีแล้ว เราคิดถูกแล้ว”
ได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง ?
“ได้ประสบการณ์เยอะมาก เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากไหน มันซื้อไม่ได้ และเมื่อก่อนเวลาเราเห็นคนเขาโดนแบบนี้เราไม่มีวันเข้าใจหรอก จนกว่าเราจะเจอด้วยตัวเองก็จะเก็บประสบการณ์นี้ไว้บอกคนที่เรารักว่ามีเคสแบบนี้นะ ถ้าเราเจอแบบนี้เราอย่าไว้ใจคนนะ”
ทำให้เรากลัวจะมีรักใหม่ไหม ?
“ถามว่ากลัวไหม ตอนนี้ไม่กลัวคนอื่นแล้ว กลัวตัวเอง เพราะเรารู้สึกว่าเราจะไม่เสียใจหรอกถ้าเราไม่อนุญาตให้ใครมาทำให้เราเสียใจ”
หลังจากนี้ยังมีเรื่องต้องเจอกันอยู่ไหม ?
“ไม่มีเลยค่ะ ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว”
เรื่องสัญญาเพลงที่เขาแต่ง ?
“แตนไม่เอาอะไรเลยค่ะ ยกให้เขาเลย เรื่องนั้นเป็นเรื่องของแกรมมี่ และนอกเหนือจากนั้นที่เขาแต่งให้แตน แตนก็ไม่ใช้เลย ไม่ร้อง ถามว่าไม่สามารถร่วมงานกันได้แล้วไหม จริงๆ วงการเราไม่ได้กว้างมาก สุดท้ายยังไงก็ต้องเจอกัน อาจจะมีสักวันที่เราต้องเจอกัน ในมุมของแตน ถ้าเราทำงานอยู่ตรงนี้ ถ้าวันนั้นต้องเจอจริงๆ เราก็คงเฉยๆ ไป เราก็เป็นแค่คนรู้จักกัน แต่เราคงไม่เลือกทำให้งานๆ นั้นเสีย หรือคงไม่ทำให้คนที่อยู่ในนั้นอึดอัด เพราะเราจะรู้สึกว่าเราแย่ แตนคิดเผื่อไว้ และกล้าเผชิญหน้า เพราะแตนรู้สึกว่าแตนไม่มีอะไรที่ต้องอาย”
ตั้งแต่โสดลุคเราเปลี่ยนไปมากเหมือนกัน ?
“จริงๆ แตนเป็นคนแต่งตัวเปรี้ยว เซ็กซี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ตอนที่มีครอบครัวมันเป็นการให้เกียรติครอบครัวเราก็เลยไม่ค่อยแต่งตัวอะไรมาก ตอนนี้ที่บอกว่าเซ็กซี่ขึ้น มันเหมือนเป็นการปลดปล่อยตัวเอง เราต้องให้โอกาสตัวเอง ให้ความสุขตัวเอง เพราะไม่มีใครมาว่าเราแล้ว”
แบบนี้หนุ่มๆ เข้ามาเยอะกว่าเดิมไหม ?
“แตนว่าหนุ่มๆ เขาก็ต้องดูแตนด้วยนะ ว่าเราเปิดรับหรือเปล่า จริงๆ แตนไม่ได้ปิดขนาดนั้นนะคะ แต่รู้สึกว่าถ้าใครจะเข้ามาหลังจากนี้มันจะต้องมีการไตร่ตรองดูกันนานๆ กว่านี้นิดหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องมีอะไรที่รับประกันเราได้ว่าเราจะไม่ถูกทิ้ง เราจะไม่เสียใจนะ”
ไม่ใช่ว่าเข็ดใช่ไหม ?
“ไม่ถึงกับเข็ดค่ะ แต่ขอใช้คำว่าตอนนี้เหม็นความรัก”
ตอนนี้เหมือนเรามีชีวิตใหม่แล้วแนวเพลงจะเปลี่ยนไปด้วย ?
“คือ ก็เหมือนปากจัดมากขึ้น เหมือนที่ผ่านมาเราไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ก็ขอพูดบ้างเถอะ แนวเพลงก็เปลี่ยนไปนิดหนึ่ง เหมือนเราโตขึ้น กล้าคิดกล้าพูดมากขึ้น”
รู้สึกยังไงเวลาคนให้สถานะเราว่าแม่หม้าย ?
“จริงๆ ไม่อยากเรียกตัวเองสถานะนี้เลย เพราะมันเป็นสถานะที่โคตรห่อเหี่ยวเลย ไม่โอเค ไม่เรียกแบบนั้นได้ไหม (หัวเราะ) อยากใช้สถานะโสดมากกว่าค่ะ”
>> โสดแล้วซู่ซ่า "ตั๊กแตน ชลดา" จัดเต็มกับชุดว่ายน้ำ เซ็กซี่เริงร่าท้าเกลียวคลื่น
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ