เด็กหญิงลูกครึ่ง เรียนดีแต่ยากจน พ่อทิ้งกลับไปเยอรมัน-ไม่มาอีกเลย
เด็กหญิงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน เรียนดีแต่ยากจน แม่เสียชีวิตตั้งแต่ 3 ขวบ พ่อขาดการติดต่อไป ตอนนี้อาศัยอยู่กับญาติแม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายยุทธศาสตร์ กงเพชร ผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ได้ร่วมพูดคุยกับ ด.ญ.สุมาตรา มนต์ไธสง หรือ น้องนาตาลี อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นางเบญจวรรณ กัลยาบาล และ นายสมชาติ กัลยาบาล ครูที่ปรึกษาฯ
หลังจากโลกโซเชี่ยนมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่เรื่องราวของน้องนาตาลี ที่เป็นเด็กเรียนเก่ง แต่ยากจน อาศัยอยู่กับครอบครัวฝ่ายแม่ ในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นเนื่องจากพ่อที่ได้เป็นวิศวกรชาวเยอรมัน ทอดทิ้งน้องนาตาลีและเดินทางกลับประเทศไปตั้งแต่ น้องนาตาลี อายุ 11 ขวบ ขณะที่แม่ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่น้อง อายุได้เพียง 3 ขวบ
นางเบญจวรรณ กัลยาบาล อาจารย์ประจำโรงเรียนบ้านไผ่ กล่าวว่า น้องนาตาลี ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 600/7 ม.2 ซอยศาลเจ้า ถ.สุขาภิบาล 2 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีสภาพบ้านทรุดโทรม หลังคาสังกะสี ชั้นเดียว อาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน คือน้องนาตาลี, ลุง, ป้า, ตา และ ยาย เป็นที่หดหู่ใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก
นายยุทธศาสตร์ กล่าวว่า ในฐานะครู และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไผ่มาก่อน จึงได้ประสานงานไปยังครูที่ปรึกษา เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เพื่อจะได้ทำการช่วยเหลือ ซึ่งในเบื้องต้นได้ให้เงินช่วยเหลือครอบครัวน้องนาตาลี จำนวน 10,000 บาท สำหรับการซื้อชุดนักเรียน-พร้อมถุงเท้า-รองเท้า รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คงค้างกับโรงเรียนเดิม
ขณะเดียวกันจะมีการประสานงานไปยังสถานทูตฯ และมหาวิทยาลัยในเยอรมันที่มีความร่วมมือกับโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ในการตามหาพ่อของน้องนาตาลี เพราะคนเป็นพ่อลูกกันนั้นอย่างไรก็ตัดกันไม่ขาด และหวังว่าหากเรื่องราวของน้องนาตาลีเผยแพร่ออกไป พ่อที่อยู่ที่เยอรมันจะกลับหรือมารับผิดชอบลูกสาวของตนเองบ้าง
อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือร่วมกันของคณะครูและผู้ใจบุญในการตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนน้องนาตาลีได้สำเร็จการศึกษาในระดับสูงสุด โดยเฉพาะกับการเป็นครูตามที่ตั้งใจไว้