โซเชียลเห็นใจ แม่แชร์ ผอ.ตบบ้องหูลูกเป็นเด็กพิเศษ ซ้ำให้เซ็นย้ายไปเรียนที่อื่น
แม่โพสต์เฟซบุ๊กขอคำปรึกษาจากโลกโซเชียล ลูกเป็นเด็กพิเศษ ถูก ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ตบบ้องหูกระทั่งแก้วหูทะลุ ซ้ำยังบังคับให้เซ็นย้ายลูกออกไปเรียนที่อื่น
วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัฐกานต์ อนันต์... ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ลูกที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 และเป็นเด็กพิเศษ ถูก ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใช้มือตบเข้าที่หูขวาอย่างแรง ทำให้เด็กอยู่ในอาการหวาดกลัว ตัวสั่น และบอกว่า “หูลูกไม่ได้ยินแล้ว” เมื่อไปตรวจร่างกายก็พบว่ามีอาการแก้วหูทะลุ
ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ผอ.โรงเรียน ได้เรียกพบแล้วให้เซ็นใบคำร้องขอย้ายลูกออกไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ทำให้ตอนนี้เด็กไม่มีที่เรียน จึงอยากขอความช่วยเหลือและคำปรึกษาหาโรงเรียนให้ลูก โดยระบุว่า...
น้องเป็นเด็กพิเศษ มักจะมีอารมณ์โกรธและโมโหจนคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อถูกล้อหรือโดนภาวะกดดันไปกระตุ้นอารมณ์ ต้องได้พบแพทย์อย่างต่อเนื่อง และทานยาทุกวัน แต่การใช้ชีวิตโดยทั่วไปเหมือนเด็กปกติ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 เด็กๆ เล่นกันแล้วเกิดการทะเลาะกัน ก็จับแยกแล้ว ให้ขอโทษกันแล้ว
สืบเนื่องมาถึงวันที่ 5 มิถุนายน ครูเวรได้นำเรื่องไปเล่าผ่านเครื่องกระจายเสียงของโรงเรียนและบอกให้น้องขึ้นไปพูดเล่าเรื่องเมื่อวานเพียงลำพัง ซึ่งทำให้เด็กเด็กมีภาวะอารมณ์ไม่ปกติอยู่แล้ว จึงเกิดความอับอายและโมโหจนคุมสติไม่อยู่ น้องก็วิ่งไปหาคุณครูและกรีดร้องความคุมอารมณ์ไม่ได้
ผอ.จึงนำสายนกหวีด จับมัดมือน้องไขว้หลังไว้ และระหว่างนั้นครูประจำชั้นโทรเรียกคุณแม่มาที่โรงเรียน พอจังหวะที่คุณแม่ไปถึงได้ เห็น ผอ.กำลังฉุกกระชากเด็กนั่งลงกับพื้น แล้วใช้มือขวาตบเข้าที่ข้างหูขวาของน้องอย่างแรง คุณแม่รีบวิ่งไปกอดน้องในสภาพที่ผวาและตัวสั่นและน้องบอกคุณแม่ว่า “หูลูกไม่ได้ยินแล้ว” คุณแม่ช็อกและตกใจกับเหตุการณ์นั้นมากจนพูดอะไรไม่ออกได้แต่กอดน้องไว้จนตัวสั่น
หลังจากนั้น ผอ. ท่านก็เรียกให้คุณแม่ไปพบในห้อง แล้วบอกคุณแม่ว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปไม่ต้องพาน้องมาเรียนที่นี้แล้วให้คุณแม่เซ็นใบย้ายน้องออกไปเรียนที่อื่น โดยให้เหตุผลว่าย้ายติดตามผู้ปกครอง คุณแม่รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องหลังจากนั้นคุณแม่พาน้องไปหาหมอ หมอให้ใบรับรองแพทย์มาว่า "แก้วหูทะลุ"
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ปกครองกำลังหาโรงเรียนให้เด็กคนนี้ ทำให้ยังไม่มีที่เรียน และเนื่องจากเด็กอยู่กับแม่เพียง 2 คน หากเด็กย้ายโรงเรียนก็ต้องย้ายหอที่่เช่าอยู่ตามไปด้วย หลังจากกรณีเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความเห็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก