เจอรองเท้า 13 ชีวิต ทีมฟุตบอลเยาวชน-โค้ช สูญหายในถ้ำหลวง แต่ยังไม่พบตัว

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเด็กนักเรียนทีมฟุตบอล "หมูป่า" จาก ต.โป่งผา อ.แม่สาย 12 คน และนายเอกพล อายุ 25 ปี โค้ชทีมฟุตบอล ได้หายเข้าไปในถ้ำหลวง ตั้งอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน พื้นที่หมู่บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำ ฯลฯ ต้องระดมเข้าไปค้นหาภายในถ้ำหลวงซึ่งมีลำธารไหลขนานออกมาตัวถ้ำตลอดทั้งวัน โดยมีบรรดาญาติๆ และเพื่อนๆ ของผู้สูญหายทั้งหมดมาติดตามการค้นหาอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ชุดค้นหากว่า 5 ชุด ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปค้นหาและออกมาพักด้านนอกปากถ้ำ โดยมีการตั้งเป็นศูนย์อำนวยการซึ่งมีทางนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 (ฉก.ม.3) กองกำลังผาเมือ สภ.แม่สาย

นายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พร้อมด้วยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) อ.แม่สาย สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนกันเข้าค้นหา

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังทราบเหตุได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันออกติดตาม โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งจากไทยและต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือจำนวน 5 ชุด โดยเข้าไปสำรวจอย่างละเอียด แต่เนื่องด้วยมีความมือและบางช่วงเป็นแอ่งน้ำ ซึ่งช่วงนี้ฝนตกทำให้มีปริมาณน้ำมาก ทำให้ไปสามารถสำรวจได้ทั่วบริเวณ

โดยเบื้องต้นยังพบเพียงรองเท้าและกระเป๋าเครื่องใช้ของกลุ่มคนหายอยู่ในถ้ำลึกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้คาดว่าผู้สูญหายทั้งหมดอาจไปติดอยู่ในโพรงถ้ำช่วงเลยที่น้ำท่วมขัง แต่ยังไม่พบตัวหรือติดต่อกับผู้สูญหายทั้งหมดได้

ด้านนายพรชัย ประดิษฐ์ค่าย หัวหน้าฝ่ายป้องกันและรักษาความสงบเทศบาลตำบลแม่สาย หนึ่งในชุดค้นหาระบุว่าถ้ำหลวงมีความยาวของประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งมีความมือ เป็นทางโค้งไปมา และมีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน ทำให้บางช่วงมีน้ำท่วมขังจากฝนตก ทำให้เป็นอุปสรรคของทีมค้นหาที่เข้าไปได้เพียง 2 กิโลเมตร

จำเป็นจะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกก่อน แต่ก็มีปัญหาในเรื่องการสื่อสารที่ติดต่อกันลำบาก ตอนนี้จำเป็นต้องเพิ่มกำลังพลและอุปกรณ์สื่อสารเพื่อให้สามารถติดต่อกันได้สะดวก เพื่อความปลอดภัยในสูบน้ำออกจึงจะเข้าสำรวจได้ทั่วบริเวณ

อย่างไรก็ตาม การค้นหามีอุปสรรคคือนอกจากจะมีน้ำที่ไหลออกจากน้ำอย่างต่อเนื่องยังเป็นฤดูฝนที่น้ำอาจเพิ่มระดับได้ จึงระดมทีมกู้ภัยต่างๆ ร่วมกับชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่รวมทั้งมีชาวต่างชาติที่มีความชำนาญเคยสำรวจถ้ำหลวงมาแล้ว ได้เข้าไปสำรวจ

พร้อมกันน้ำจะได้ประสานชุดประดาน้ำจากศิริกรณ์บรรเทาสาธารณภัยเชียงราย และทางหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง มาช่วยดำน้ำเข้าไปสำรวจและนำอาหารไปให้ผู้สูญหายประทังชีวิตระหว่างรอสูบน้ำที่ปิดทางเข้าออกถ้ำออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาการดำเนินการ