คืบหน้าเด็กหญิง 9 ขวบ ถูกเพื่อนทำปืนลั่นใส่ อาการยังทรง-แพทย์ดูแลใกล้ชิด

( 25 มิ.ย. 61 )  นายแพทย์รพีภัทร์ พิพัฒนานันท์ นายแพทย์ปฏิบัติการโรงพยาบาลขอนแก่น เข้าตรวจดูอาการบาดเจ็บของน้องปาล์มมี่ (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 9 ปี ชาวอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังจากถูกส่งตัวมาเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนแก๊ปยิงเข้าที่บริเวณไหล่ขวาด้านหลัง กระสุนทะลุเข้าปอด ซึ่งถูกนำตัวส่งมารักษาตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยแพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดเป็นวันที่ 2 

นายแพทย์รพีภัทร์ กล่าวว่า อาการของน้องปาล์มมี่โดยรวมถือว่าอยู่ในขั้นปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกระสุนปืนที่ถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังได้ทะลุเข้าไปในปอดทำให้มีเลือดออกในปอด ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการต่อท่อเพื่อระบายเลือดให้แล้ว

ส่วนที่ต้องเฝ้าระวังในขณะนี้คือ ไม่ให้เกิดการติดเชื้อในปอดและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่จะตามมา ซึ่งนอกจากการรักษาอาการบาดเจ็บด้านร่างกายแล้ว  ขณะเดียวกันทีมแพทย์ยังต้องรักษาอาการด้านจิตใจของคนไข้ด้วย

อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่อยู่ในวัยนี้ได้ใช้ความระมัดระวังและรอบคอบในการดูแล โดยเฉพาะการเก็บอาวุธทุกชนิดที่เป็นอันตรายให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากเด็กในวัยนี้จะมีการลอกเลียนแบบพฤติกรรมจากสื่อต่างๆ แล้วมาเล่นหยอกล้อด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่บ้านม่วงหวาน หมู่ที่ 1 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ปกครองของเด็กออกไปทำงาน มีเพียงน้องปาล์มมี่ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ น้องโอ (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 11 ปี และน้องเจมส์ (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 10 ปี ผู้ทำปืนลั่น เล่นอยู่ภายในบ้านหลังเกิดเหตุ

ซึ่งจากการสอบถามน้องโอ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุน้องปาล์มมี่กำลังเล่นเป็นพยาบาล โดยตนเอง เล่นเป็นคนไข้นอนรับการรักษาอยู่บนโซฟา ขณะเดียวกันน้องเจมส์ ที่อยู่ด้วยกันก็อยากเล่นเป็นตำรวจ โดยได้ไปหยิบปืนที่อยู่ข้างตู้เสื้อผ้าภายในห้องโถงมา พร้อมกับหันปลายกระบอกปืนมาทางน้องปาล์มมี่ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “นี่ปืนปลอม หยุดนะ” 

พอสิ้นเสียงพูดปืนได้ลั่นขึ้นมา 1 ครั้ง เห็นน้องปาล์มมี่นอนนิ่ง อยู่ที่ด้านหลังบริเวณใต้หัวไล่ขวามีเลือดออก จากนั้นได้นำตัวน้องออกจากกลางห้องโถงหน้าจอทีวีมาไว้ประตูหน้าบ้าน พร้อมกับมีชาวบ้านมาดูก่อนที่ตาจะมานำไปส่ง รพ.น้ำพอง ก่อนจะถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่นในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น เตรียมจัดทีมแพทย์ลงไปดูสภาพจิตใจของน้องเจมส์และน้องโอ หลังจากเกิดเหตุการณ์ด้วย