มาทำความรู้จักกับ ไข้หวัดหมู
เว็บไซต์บีบีซีตีพิมพ์ข้อมูลให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดหมู โดยระบุว่า ไข้หวัดหมูแท้จริงแล้วเป็นโรคทางเดินหายใจที่พบในหมู มีสาเหตุมาจากไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ก่อให้เกิดอาการป่วยแต่มักจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิต
ไข้หวัดหมู ส่วนใหญ่มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่สามารถพบเชื้อได้ตลอดทั้งปี ไข้หวัดหมูมีหลายสายพันธุ์เช่นเดียวกับไข้หวัดที่พบในคน และเชื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตามปกติ คนจะไม่ติดเชื้อไข้หวัดหมู ยกเว้นผู้ที่ไปสัมผัสใกล้ชิดกับหมู ก็อาจติดเชื้อไข้หวัดหมูมาได้ แต่มักไม่ค่อยพบกรณีนี้ ทั้งยังไม่ค่อยพบกรณีไข้หวัดหมูระบาดจากคนสู่คนอีกด้วย แต่ถ้าพบ ก็มักเป็นการติดเชื้อผ่านการไอและจาม
แต่ถึงกระนั้น การระบาดของไข้หวัดหมูในครั้งนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คน และอาการก็เหมือนไข้หวัดธรรมดาทั่วไป องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า ผู้ป่วยบางรายในนี้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์พิเศษในแบบที่พบทั้งในคน นก และหมู ไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ในรูปแบบใหม่นี้อาจเกิดจากการผสมของไวรัสหลายสายพันธุ์รวมกัน ซึ่งตามปกติ ไวรัสไข้หวัดจะสามารถกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลาเมื่อมีการแลกเปลี่ยนลักษณะทาง พันธุกรรมกับไวรัสไข้หวัดด้วยกัน
ข้อมูลจากเว็บไซต์บีบีซี ยังยืนยันว่า สามารถกินเนื้อหมูได้ตามปกติในช่วงนี้ เพราะยังไม่มีหลักฐานว่า ไข้หวัดหมูจะแพร่ผ่านจากการกินเนื้อที่ปรุงมาจากหมูซึ่งป่วยเป็นไข้หวัด แต่เนื้อหมูที่นำมาปรุงเป็นอาหาร ควรทำให้สุกผ่านอุณหภูมิสูงถึง 70 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสให้ตายเสียก่อน
องค์การอนามัยโลกยังระบุถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูในเม็กซิโกและสหรัฐว่า ก่อให้เกิดความวิตกที่เชื้ออาจแพร่ลามระบาดไปทั่วโลก และย้ำว่า สถานการณ์ในขณะนี้ อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ได้อย่างครบถ้วนในตอนนี้ เพียงแต่คาดว่า สถานการณ์กำลังดูคล้ายกับเมื่อคราวที่เกิดการระบาดของไข้หวัดเมื่อปี 2511 ซึ่งตรวจพบที่ฮ่องกงเป็นที่แรก เกิดจากไวรัสสายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 1 ล้านคนทั่วโลก โดยผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี มีแนวโน้มจะเสียชีวิตมากที่สุด
เป็นที่น่าสังเกตว่า เหยื่อที่ติดเชื้อไข้หวัดหมูในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาว ทั้งที่ตามปกติ ผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มที่ติดไข้หวัดได้ง่ายที่สุด ทางการสหรัฐย้ำว่า ยาทามิฟลู และรีเลนซา ยังคงใช้รักษาอาการหวัดอย่างได้ผลในตอนนี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่า วัคซีนไข้หวัดที่คิดค้นได้ในปัจจุบัน จะใช้ป้องกันไข้หวัดที่กลายพันธุ์ไปจากเดิมได้หรือไม่ เช่น ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ล่าสุด
ส่วน ไข้หวัดนก ที่คร่าชีวิตผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เป็นคนละสายพันธุ์กับไข้หวัดหมู โดยไข้หวัดนกเป็นไวรัสสายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 1 แต่ไข้หวัดหมู เป็นไวรัส เอช 1 เอ็น 1 สายพันธุ์ใหม่ ผู้เชี่ยวชาญกำลังวิตกว่า อาจเกิดการระบาดของไวรัส เอช 1 เอ็น 1 เพราะเป็นไวรัสที่กลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว และขณะนี้ ก็เกิดการติดต่อจากคนสู่คน ต่างจากไวรัส เอช 5 เอ็น 1 ซึ่งยังไม่สามารถแพร่จากคนสู่คนได้อย่างง่ายๆ