ตร.จีนตามจับคนยุ สาววัย 19 ป่วยซึมเศร้าถูกครูลวนลาม กระโดดตึกฆ่าตัวตาย
สาวจีนวัย 19 ปีป่วยโรคซึมเศร้าถูกครูลวนลาม กระโดดตึกฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกรีดร้องลั่นช่วยไม่ได้ ด้านตำรวจตามจับตัวคนยุ
สื่อประเทศจีนรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา หญิงสาวแซ่หลี่วัย 19 ปี พยายามจะกระโดดโรงแรมสูงแห่งหนึ่งในเมืองชิ่งหยาง มณฑลกานซึ่ง เพื่อฆ่าตัวตาย แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่กว่า 4 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สำเร็จ
โดยเจ้าหน้าที่สามารถคว้าแขนข้างหนึ่งของเธอที่นั่งอยู่บริเวณขอบหน้าต่างไว้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถดึงร่างของเธอที่ห้อยอยู่กลางอากาศกลับขึ้นมาได้ เธอจึงร่วงตกกระแทกพื้นด้านล่างอย่างจัง เสียชีวิตต่อหน้าเจ้าหน้าที่ซึ่งตะโกนร้องโหยหวนแสดงถึงความสิ้นหวังน่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง
และต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่ยืนมุงดู ซึ่งไม่เพียงไม่เป็นกังวลกับหนึ่งชีวิตที่ดับสูญ แต่ยังช่วยกันตะโกนบอกให้เธอกระโดดลงมาเร็วๆ ด้วย บางคนถึงขนาดบอกว่าเธอเรียกร้องความสนใจ อยากกลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ ขณะที่บางคนถ่ายรูปถ่ายรูปโพสต์บนสื่อโซเชียล
ต่อมามีรายงานเปิดเผยว่า หญิงสาวผู้เสียชีวิตมีอาการของโรคซึมเศร้าจากเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ช่วงเธออายุ 17 ปี เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยม ถูกครูประจำชั้นทราบแซ่อู๋ อายุ 49 ปี ลวนลามหวิดโดนข่มขืน
เธอได้เขียนจดหมายความยาว 6 หน้ากระดาษ เล่าถึงเหตุการณ์อันน่ากลัวนั้นไว้ด้วยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ปี 2016 เธอปวดท้องโรคกระเพาะจึงต้องกลับไปนอนพักที่หอพัก เมื่อครูอู๋คนนั้นทราบเรื่องก็ตามไปเยี่ยมดูอาการ แต่กลับฉวยโอกาสกอดจูบ กัดที่หู ก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเธอ เคราะห์ดีมีครูอีกคนมาเคาะประตู เหตุการณ์ดังกล่าวจึงยุติลง
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะรู้ไปถึงทางโรงเรียน แต่ครูอู๋คนนั้นกลับไม่ได้ถูกลงโทษร้ายแรง โดยพ่อของหญิงสาวเผยว่า ทางโรงเรียนได้แจ้งว่าได้ลงโทษทางวินัยครูอู๋คนนั้นแล้ว พร้อมสั่งให้เขาขอโทษ แต่ยังให้เป็นครูต่อไป และจะให้จ่ายค่าชดเชยเป็นเงิน 3.5 แสนหยวน (ประมาณ 1.75 ล้านบาท) หากตกลงว่าจะไม่ยื่นฟ้องร้องเขา ซึ่งพ่อของหญิงสาวปฏิเสธ
กระนั้น แม้ว่าเรื่องจะไปถึงตำรวจแต่ก็ไม่เป็นผล ครูอู๋คนนั้นกลับบอกว่าการกระทำกอดจูบลูบคลำดังกล่าวเป็นเพียงการตรวจวัดว่าเธอมีไข้หรือไม่เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด ซึ่งสุดท้ายแล้วทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตัดสินว่าเขามีความผิด มีเพียงควบคุมตัวเขาไว้ 10 วันระหว่างการดำเนินคดี
สุดท้าย หญิงสาวหยุดไล่ตามความยุติธรรมทางกฎหมาย เธอทุกข์ทนจากเรื่องดังกล่าวจนเป็นโรคซึมเศร้าและภาวะพีทีเอสดี (PTSD) ความเครียดผิดปกติหลังเกิดเหตุสะเทือนใจ เคยพยายามจะฆ่าตัวตาย 2 ครั้งโดยการกินยา ก่อนจะจบชีวิตตัวเองสำเร็จในครั้งสุดท้ายเมื่อวันพุธ (20 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ด้วยการกระโดดตึกดังกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า คำพูดสุดท้ายของเธอคือบอกกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่พยายามช่วยชีวิตเธอว่า “ขอบคุณนะ แต่ฉันต้องไปแล้วล่ะ”
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ปัจจุบันได้ควบคุมตัวคนที่ตะโกนร้องยุให้หญิงสาวกระโดดลงมา จำนวน 2 คน เป็นเวลา 20 วัน