"สิกข์" : ทหารแห่งจักรวรรดิบริติช

"สิกข์" : ทหารแห่งจักรวรรดิบริติช

"สิกข์" : ทหารแห่งจักรวรรดิบริติช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันฉลองวันพระราชสมภพอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยวันพระราชสมภพจริงนั้นเป็นวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2569 ซึ่งเกาะอังกฤษนั้นโดยทั่วไปบรรยากาศจะมัวซัวและมีฝนตกบ่อย ดังนั้นจึงเกิดมีธรรมเนียมการฉลองวันพระราชสมภพอย่างเป็นทางการของกษัตริย์อังกฤษเริ่มต้นมา 250 ปีที่แล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2291 ในรัชสมัยพระเจ้าจอร์จที่ 2 ผู้ทรงต้องการจัดงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพในช่วงฤดูร้อนที่สภาพอากาศดีแทน โดยมีการจัดงานเดินขบวนพาเหรดสวนสนาม ซึ่งก็ได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันเรื่อยมาจนปัจจุบัน

ในขบวนพาเหรดของทหารรักษาพระองค์เฉลิมฉลองวันพระราชสมภพปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีทหารรักษาพระองค์นายหนึ่งสวมผ้าโพกหัวสีดำที่เป็นธรรมเนียมของชาวสิกข์ซึ่งแตกต่างจากหมวกขนหมีสีดำเหมือนกับทหารทุกคน ทำให้เกิดเป็นเรื่องฮือฮาใหญ่โตกันเลยทีเดียว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งจักรวรรดิบริติซใน พ.ศ. 2105 เลยทีเดียว

Getty Images

จักรวรรดิบริติช เริ่มต้นขึ้นโดยพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ทรงส่งเสริมให้บรรดาสลัดหลวง (privateers - คือเจ้าของเรือเอกชนออกไปปล้นเรือของชาติศัตรู โดยทางการให้การสนับสนุนให้ความคุ้มครองเมื่อเรือสลัดหลวงเข้ามาจอดในท่าเรือของประเทศ) ทำการโจมตีปล้นเรือของทั้งสเปนและโปรตุเกสที่เต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติซึ่งขนกลับจากโลกใหม่

ต่อมาก็เริ่มล่าดินแดนอาณานิคมโพ้นทะเล และมีสถานีการค้าที่อังกฤษก่อตั้งขยายตัวไปเรื่อยๆ กลายเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นมหาอำนาจโลกชั้นแนวหน้านานกว่าหนึ่งศตวรรษ ใน พ.ศ. 2465 จักรวรรดิบริติชปกครองประชากรประมาณ 458 ล้านคนหรือกว่าหนึ่งในห้าของประชากรโลกในเวลานั้น ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 33,000,000 ตารางกิโลเมตร เกือบหนึ่งในสี่ของพื้นดินทั้งหมดของโลก

แต่เกาะอังกฤษหรือบริเตนใหญ่ซึ่งเป็นเมืองแม่ของจักรวรรดิบริติชเป็นเพียงเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก มีเนื้อที่เล็กกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศไทยเสียอีก มีประชากรปัจจุบันแค่ 50 กว่าล้านคนเท่านั้นเอง ดังนั้น การเคยมีจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้นั้นจำเป็นต้องต้องมีกำลังทหารอันมหึมา ซึ่งอังกฤษต้องใช้ทหารรับจ้างจากประเทศอินเดียอันเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกในปัจจุบันเข้าเป็นทหารรับจ้าง ซึ่งหากปราศจากทหารรับจ้างชาวอินเดีย (และเนปาล) แล้ว อังกฤษก็คงไม่สามารถดำรงสถานะของมหาอำนาจอยู่ในโลกนี้ได้อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทหารรับจ้างชาวอินเดียอยู่ในกองทัพอังกฤษมากกว่า 2.5 ล้านคนเลยทีเดียว

ในพ.ศ. 2143 พระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ทรงสนับสนุนให้บรรดาเอกชน (สลัดหลวง) ตั้งบริษัทอินเดียตะวันออกขึ้นเพื่อค้าขายในทวีปเอเชีย โดยตั้งหลักแหล่งอยู่ที่อินเดียซึ่งบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษก็มีทหารรับจ้างชาวอินเดียที่เป็นฮินดูและมุสลิม (เรียกว่า “ทหารซีปอย”) มาฝึกแบบทหารยุโรป เพื่อทำการป้องกันและรบรุกกับศัตรูคือบริษัทการค้าของประเทศต่างๆ และบรรดาผู้ปกครองดินแดนต่างๆในอินเดีย ซึ่งมีราชวงศ์โมกุล

Getty Images

โดยบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษรบได้เก่งมากจนได้ครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ของอินเดีย แต่ต่อมาใน พ.ศ.2400 ทหารซีปอยก่อกบฏขึ้น จนรัฐบาลอังกฤษต้องเข้ามาปราบปรามและยึดบริษัทอินเดียตะวันออก รวมทั้งได้ทำการปฏิรูปเหล่าทหารรับจ้างอินเดียเสียใหม่ ในปี พ.ศ. 2401 จึงเริ่มมีการรับสมัครทหารชาวสิกข์และชาวกูรข่ากันขนานใหญ่ โดยต่อมาทหารชาวสิกข์ก็ได้เป็นใหญ่เป็นโตและเป็นกำลังสำคัญในกองทัพประเทศอินเดียในปัจจุบัน ส่วนทหารกูรข่าซึ่งเป็นชาวเนปาลนั้น อังกฤษยังคงรับไปเป็นทหารรับจ้างประจำอยู่ในประเทศอังกฤษ

ชาวสิกข์คือคนอินเดียที่นับถือศาสนาสิกข์ (สิกข์แปลว่า ศิษย์ หรือศึกษา) ซึ่งเป็นศาสนาใหม่อายุ 500 ปี เป็นการผสมผสานกันระหว่างศาสนาฮินดูกับศาสนาอิสลาม ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่แคว้นปัญจาปที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศอินเดีย มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน ซึ่งชาวสิกข์ต้องเป็นนักรบเพื่อป้องกันตนจากศาสนาอื่นและทำการรบกับอังกฤษหลายครั้ง จนทางอังกฤษยอมรับนับถือความเป็นทหารที่กล้าหาญของชาวสิกข์

ขณะที่ผู้ชายชาวสิกข์ทุกคนต้องทำพิธี "ปาหุล" คือพิธีล้างบาป เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็จะรับเอา "กะ" คือสิ่งที่เริ่มต้นด้วยอักษร "ก" 5 ประการ ดังต่อไปนี้  คือ

  1. เกศ การไว้ผมยาวโดยไม่ตัดเลย 
  2. กังฆา หวีขนาดเล็ก 
  3. กฉา กางเกงขาสั้น (ต่างจากชาวอินเดียที่นุ่งผ้าโจง-โธตี) 
  4. กรา กำไลมือทำด้วยเหล็ก  
  5. กิรปาน ดาบ 

ทั้งนี้ ผู้ที่ทำพิธีปาหุลแล้ว จะได้นามว่า "สิงห์" แปลว่า สิงโต หรือ ราชสีห์ ต่อท้ายเหมือนกันทุกคน คือเป็นการถือว่าชาวสิกข์ทุกคนเป็นพี่น้องกันนั่นเอง

การไว้ผมยาวของชาวสิกข์ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ดังนั้น จึงบังคับให้ชาวสิกข์ต้องพกหวีประจำตัวตลอดเวลา และต้องใช้ผ้าโพกศีรษะเป็นประจำเพื่อความเรียบร้อย จึงเป็นสัญลักษณ์ของชาวสิกข์ทุกคน

และนี่คือที่มาของ พลทหารจรัลพิศ สิงห์ ลาลล์ วัย 22 ปี ผู้เป็นหนึ่งเดียวในบรรดาทหารรักษาพระองค์จำนวนนับพันคนที่มาร่วมขบวนพาเหรดในวันเฉลิมฉลองวันครบรอบวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยมีผ้าโพกศีรษะแทนหมวกขนหมีในปีนี้นั่นเอง

 


             
           

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook