ไอ้หื่นชกหน้าข่มขืนแม่ค้าท้อง 5 เดือน ทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตำรวจบุกจับไอ้หื่น เพิ่งบุกปล้ำข่มขืนแม่ค้าสาวท้อง 5 เดือน ตีเนียนกลับไปขายของในโรงงาน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พบประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีเก่ามาไม่นาน

เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) พ.ต.ท.วิสันต์ วัตรายุวงศ์ สารวัตรสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่ามีผู้ถูกข่มขืนที่บริเวณป่าริมทางก่อนถึงสวนอุตสาหกรรมอินทรา ม.9 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 22 ปี กำลังตั้งครรภ์และยืนร้องไห้อยู่ โดยพบเลือดไหลออกจากหูด้านขวา ดวงตาแดงกล่ำลักษณะมีเลือดออกนัยน์ตา มีรอยช้ำบริเวณโหนกแก้ม สอบถามเบื้องต้นเล่าว่า ตนมีอาชีพขายผลไม้โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง โดยจะแวะจอดขายตามโรงงาน

แต่เนื่องช่วงนี้จากตนตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน จะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ ในขณะเกิดเหตุตนปวดปัสสาวะกะทันหัน จึงรีบจอดรถเข้าไปปัสสาวะที่หลังพุ่มไม้ในป่าข้างทาง ก่อนถึงสวนอุตสาหกรรมรามอินทรา ปรากฏว่ามีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ เข้ามาเอามีดจ่อคอ บีบคอ และชกเข้ามาที่หน้าของตน 3 ครั้ง ก่อนจะพยายามข่มขืน

แต่ตนเคยเห็นหน้าชายคนดังกล่าวขับรถยนต์กระบะสีดำ เข้า-ออกที่โรงงานแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรมรามอินทราอยู่เป็นประจำ โดยน่าจะเป็นพ่อค้าที่ขายของอยู่ภายในโรงงาน หลังจากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่า น.ส.พร มีอาการเลือดออกที่บริเวณหูและได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี

หลังจากนั้นได้สอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้เห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ขายผลไม้ของ น.ส.พร และรถกระบะฟอร์ด สีดำ จอดอยู่ข้างกันเป็นเวลานานอย่างผิดสังเกต ต่อมาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย ทันใดนั้นก็มีผู้ชายเดินออกมาจากพุ่มไม้ ก่อนจะรีบขึ้นรถกระบะขับออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกตนเดินไปดูหลังพุ่มไม้ก็พบ น.ส.พร อยู่ในสภาพเสื้อผ้าฉีกขาด มีเลือดไหล และนั่งร้องไห้ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่

จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็น นายปิยะ อายุ 36 ปี เป็นพ่อค้าขายอาหารให้กับพนักงานภายในโรงงานแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จึงเดินทางไปที่โรงงานดังกล่าว ก่อนจะพบ นายปิยะ ยังทำงานอยู่ที่ร้านอาหารตามปกติ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.อินทร์บุรี

จากการสอบสวน นายปิยะ ให้การรับสารภาพว่า ในช่วงวันเวลาดังกล่าวได้เดินเข้าไปปัสสาวะในป่าริมทางในที่เกิดเหตุ ก่อนจะเหลือบมองเห็นผู้เสียหายกำลังถอดกางเกงนั่งลงเพื่อปัสสาวะ ทำให้ตนเกิดอารมณ์เพศ จึงได้ตรงเข้าไปหาผู้เสียหาย เพื่อทำการข่มขืนและได้ใช้มีดปลายแหลมขู่ว่าอย่าร้อง

แม่ค้าท้อง 5 เดือน ผู้เสียหายในคดีนี้

เมื่อผู้เสียหายร้องตะโกนให้คนช่วย ตนจึงใช้หมัดขวาชกไปที่บริเวณกกหูและหน้า 3 ครั้งและก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา แต่ผู้เสียหายได้ร้องอ้อนวอนว่า “พี่อย่าทำหนูเลย หนูกำลังท้อง” ตนจึงหยุดและหยิบโทรศัพท์มือถือมาแกล้งถ่ายเพื่อข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้ไปบอกใคร

จากนั้นตนก็รีบใส่เสื้อผ้าเดินขึ้นรถกระบะขับกลับบ้านเช่าที่ตลาดอินทร์บุรีตามปกติ ขณะที่ขับมาถึงบริเวณคันคลองมหาราช ตนได้ถอดเสื้อยืดสีขาวของตนที่เปื้อนเลือดของผู้เสียหายโยนออกนอกหน้าต่างรถ เพื่อทำลายหลักฐาน และกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าขี่รถจักรยานยนต์ไปขายข้าวที่โรงงานต่อตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาที่ สภ.อินทร์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน โดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อไป

ขณะที่ในช่วงหัวค่ำวันเดียวกันนั้น ญาติๆ ของผู้เสียหายกว่า 30 คน ได้เดินทางมา สภ.อินทร์บุรี โดยแต่ละคนมีอาการโกรธแค้นที่คนร้าย ซึ่งทราบมาว่าเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาได้ไม่นานและก็ได้มาก่อเหตุ ทำร้ายและพยายามข่มขืนสาวกำลังท้อง นับว่าเป็นบุคคลที่อันตรายไม่ได้มีความสำนึกผิดแต่อย่างใด หวังว่ากฎหมายจะมอบบทลงโทษให้กับคนประเภทนี้อย่างสาสม