คลอดโผทหารตท.10เพื่อนทักษิณเข้ากรุ

คลอดโผทหารตท.10เพื่อนทักษิณเข้ากรุ

คลอดโผทหารตท.10เพื่อนทักษิณเข้ากรุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คลอดโผทหาร 454 ตำแหน่ง ประวิตร - อนุพงษ์ ดันปรับโครงสร้างกองทัพใหม่ทุกเหล่าทัพ เขี่ย ตท.10 เข้ากรุอีกรอบ ผบ.ทบ.จัดแถวโยกเด็กผงาดขึ้นคุมอำนาจเป็นแผง ส่วนกองทัพอากาศยุบ 3 กองบัญชาการฮือฮาดันตำแหน่งศูนย์อำนวยการราชพาหนะ ทั้ง ฮ.และเครื่องบิน ทุกเหล่าทัพพร้อมใจเพิ่มอัตรา รองเสนาธิการ และ ผช.เสธ.

เมื่อวันที่ 27 เมษายน ได้มีการแจกจ่ายสำเนาประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ จำนวน 454 ตำแหน่ง โดยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระรบรมราชโองการ ลง ณ วันที่ 27 เม.ย.2552

สำหรับบัญชีโยกย้ายนายทหารกลางปีนี้ นายอภิสิทธิ์ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าจะมีการประกาศก่อนสิ้นเดือนมีนาคม เพราะในคำสั่งจะมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2552 ทำให้นายทหารที่มีรายชื่อได้รอคำสั่งเพื่อเข้ารับตำแหน่งใหม่ แต่เนื่องจากการปรับย้ายนายทหารครั้งนี้ ในส่วนกองทัพมีการปรับโครงสร้างกองทัพ และยุบรวมหน่วยในเหล่าทัพหลายตำแหน่ง หลายอัตรา ทำให้ต้องรอในขั้นตอนของการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับโครงสร้างกองทัพหลายหน่วย ในยุค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหมนั้น โดยเหตุผลเพื่อให้กองทัพมีสายการควบคุม และการสั่งการของสายการบังคับบัญชาให้สั้น และกะทัดรัดต่อการสั่งการ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการปรับโครงสร้างของทุกเหล่าทัพ และเป็นการลงนามครั้งแรกในรัฐบาลนี้และครั้งแรกของ พล.อ.ประวิตร ในตำแหน่ง รมว.กลาโหม

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า นายทหารตท.10 ที่สนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มาลงตำแหน่งในสำนักงาน รมว.กลาโหม สมัยนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ เป็น รมว.กลาโหม ถูก พล.อ.ประวิตร ปรับออกจากตำแหน่งทุกคน ส่วนผู้ที่ยังมีตำแหน่งหลักก็ถูกปรับออกจากกองทัพด้วย ซึ่งเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประวิตร ได้หารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ว่าควรจะโยกกลุ่มเพื่อนที่สนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งหลักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิด เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่

สำหรับตำแหน่งสำคัญ ที่มีการปรับย้ายในส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม(สป.) มีการโยกคนสนิท พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เพื่อเข้าสู่ตำแหน่งหลักประกอบด้วย พ.อ.ณัฐ อินทรเจริญ นายทหารคนสนิท พล.อ. ประวิตร ขึ้นเป็น หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. เป็น หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ รมว.กลาโหม พล.อ.อภิชาติ ทิมสุวรรณ ที่ปรึกษาพิเศษ สป. เป็น ผอ.ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พล.ต. ภัทรกฤตย์ ธีระรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. เป็น ผช.หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ รมว.กห. พ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกลาโหม เป็น นายทหารฝ่ายเสธ.รมว.กห. พ.อ.สัมพันธ์ ธัญญพืช เป็น นายทหารฝ่ายเสธ.รมว.กลาโหม พ.อ.กิตติภูมิ วงษ์ทิม เป็น นายทหารฝ่ายเสธ รมว.กห.

ในส่วนของกองบัญชาการทหารสูงสุดที่ ได้ปรับโครงสร้างเป็น กองบัญชาการกองทัพไทย มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนชื่อจาก กองบัญชาการทหารสูงสุดมาเป็นกองบัญชาการกองทัพไทยเท่านั้น สำหรับตำแหน่งสำคัญมีเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย โดยมี พล.ต.อมรเทพ โรจนสโรช รองจก.แผนที่ทหาร ขึ้นเป็น จก.แผนที่ทหาร แทน พล.ท. แดน มีชูอรรถ ที่เสียชีวิตลง รวมทั้งได้โยก พล.ท. ดุลกฤต รักษ์เผ่า แม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อนก๊วน พ.ต.ท.ทักษิณ (ตท.10) ออกจาก ทบ. มาเป็น รองผบ.หน่วยทหารพัฒนา

สำหรับกองทัพบกในยุค พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ยังคงมีการผลักดันเด็กในสังกัดขึ้นมารับตำแหน่งสำคัญ ทั้งยังมีการยุบหน่วยสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง มารวมกับกรมยุทธศึกษาทหารบก และ เพิ่มอัตรา รองเสนาธิการทหารบก อีก 1 ที่นั่ง โดยมีการผลักดันตำแหน่งผู้บังคับจังหวัดทหารบกให้เป็นอัตราพลตรีทุกจังหวัด รวมทั้งมีการเปลี่ยนชื่อหน่วยจากหน่วยบัญชาการกำลังสำรองกลับมาเป็นหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนหรือ (รด.) เก่าเหมือนเดิม

สำหรับกองทัพอากาศ ที่มีการปรับโครงสร้าง ยุบ 3 กองบัญชาการประกอบด้วย กองบัญชาการยุทธทางอากาศ(บยอ.) กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ(บนอ.) และกองบัญชาการฝึกศึกษาทหารอากาศ(บศอ.) และเพิ่มอัตรารองเสธ.ทอ. 1 ตำแหน่ง และ ผช.เสธ.ทอ.ฝกร ทั้งยังได้เพิ่ม ตำแหน่ง ศูนย์อำนวยการเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ และศูนย์อำนวยการเครื่องบินพระราชพาหนะ เพื่อดูแลพระบรมวงศานุวงศ์ในการเดินทางด้วยพระราชพาหนะ

สำหรับกลุ่มเพื่อน ตท.10 กลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้กลับมาได้ตำแหน่งสำคัญในสมัย นายสมัคร เป็น รมว.กลาโหม ซึ่งถูกโยกเข้ากรุ ประกอบด้วย พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี หน.ฝ่ายเสนาธิการ รมว.กลาโหม เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.อ.พงศ์ทัศน์ เศวตรเศรนี ผอ.ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และพลังงานทหาร โยกเป็น ที่ปรึกษาพิเศษ สป. พล.ท. วิเชียร วิเวก เป็นผู้ทรงคุณพิเศษ สป. พล.ท.มนัส เปาริก ผช.หน.ฝสธ.รมว.กลาโหม และอดีตรองมทภ.3 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.ท. พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผช.หน.ฝสธ.รมว.กห.และอดีตผบ.พล.1 รอ.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.อ.ท.พงศธร บัวทรัพย์ ผช.หน.ฝสธ.รมว.กห. เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สป. พล.ท. โสภณ ดิษฐแย้ม แม่ทัพน้อยที่ 2 ก็โดนโยกเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ.(อัตราพลเอก) หลุดสายคุมกำลังพล.ท. ดุลกฤต รักษ์เผ่า แม่ทัพน้อยที่ 1ก็โดนโยกออกจาก ทบ. ข้ามไปในตำแหน่ง รองผบ.หน่วยทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ท. คำรบ ลียะวณิช ผบ.สถาบันวิชาการทหารอากาศชั้นสูง โดนโยกเป็น รองหน.คณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา พล.อ.ท. ธงชัย ธารนพ รองผบ.ฝึกศึกษาทหารอากาศ ถูกเด้งเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ.

ส่วนนายพลหญิงที่ได้รับโปรดเกล้าฯมี 7 คน คือ 1.พ.อ.หญิงหรรษา ฤทธิวาจา เป็นผู้ชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 2.พ.อ.หญิง ชกานาฎ จันทรวงศ์ เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรงกลาโหม 3.พ.อ.หญิงกิติยา จันทรนิมะ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 4.พ.อ.หญิงศิริพร พันธุวนิช เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 5.น.อ. หญิง ประนอม บำรุงพฤกษ์ เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทอ. 6.น.อ. หญิงอารยา จารุวณิช เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทอ. 7.น.อ.หญิง ภัทริกา เทพสิทธา เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทอ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook