สิ้นแล้ว! นอภ.สามโคก เสียชีวิตอย่างสงบบนเตียง พลขับคนสนิทคาดโรคหัวใจกำเริบ
( 29 มิ.ย. 61 ) ร.ต.อ.กฤษณะ คำกังวาน รอง สว.สอบสวน สภ.สามโคก รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่เกิดเหตุบ้านพักนายอำเภอสามโคก เลขที่ 999 หมู่ที่ 9 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี , นายธวัชชัย ศรีทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี กำลังชุดสืบสวนเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก 2 ชั้น บริเวณภายในห้องนอนชั้นที่ 2 ด้านทิศเหนือ บนเตียงนอนพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมานายไพรัตน์ ลิ่มสกุล อายุ 57 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งนายอำเภอสามโคก เสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงายสวมกางเกงบอลสีน้ำเงิน บริเวณโต๊ะวางของปลายเท้าพบถุงยารักษาโรคของ รพ.สามโคก และสถาบันโรคทรวงอกวางอยู่จำนวน 3 ถุง ซึ่งเป็นยาลดไขมันในเลือด ยาแก้ปวดอักเสบ และข้างกันพบ นายศิลปะชัย อายุ 44 ปี อส.อำเภอสามโคก และปฏิบัติหน้าที่พลขับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ
นายศิลปะชัย อส.อำเภอสามโคก และปฏิบัติหน้าที่พลขับ เปิดเผยว่า ค่ำคืนที่ผ่านมานายอำเภอได้ไปร่วมแสดงความยินดีในงานวันเกิดและกลับมาบ้านพักเวลาประมาณ 20.00 น. ก่อนจะขึ้นห้องพักตามปกติ
กระทั่งรุ่งเช้าเวลา 07.30 น. ตนเองที่นอนอยู่ห้องนอนชั้นล่างไม่พบว่า ผู้บังคับบัญชาจะลงมาด้านล่างเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เช่นทุกวัน และบนบ้านเงียบสนิทจึงวิ่งขึ้นมาตรวจสอบคาดว่า มีสิ่งผิดปกติก็พบว่า นายอำเภอนอนหงายอยู่บนเตียงซึ่งตนเองพยายามเรียกและปลุกก็ไม่ตอบรับ จึงประสานกู้ชีพปทุมธานีเพื่อส่งทีมแพทย์มาให้ความช่วยเหลือ ก่อนจะพบว่านายอำเภอเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งปกตินายอำเภอมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ และทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เมื่อนายต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการสิ่งใดจะกดกริ่งหน้าห้องเพื่อเรียกตนเอง แต่ครั้งนี้กลับไม่เรียกจึงคาดว่าอาการน่าจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
ทางด้าน ร.ต.อ.กฤษณะ คำกังวาน รอง สว.สอบสวน สภ.สามโคก เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้นพร้อมสอบปากคำเจ้าหน้าที่พลขับที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมทั้งให้ แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบอย่างละเอียด และให้อาสามสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป