บิ๊กโจ๊กนำทัพ! รวบคาราวานเด็กแว้น ยึดเพียบยาเสพติด-จยย.กว่า 200 คัน
( 30 มิ.ย.61 ) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันจับกุมกลุ่มเด็กแว้น พร้อมยึด รถ จยย. ของกลางได้กว่า 200 คัน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ท่อไอเสียชุดแต่งรถที่ไม่ได้มาตรฐานอีกจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการปฏิบัติการกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะและเด็กหรือเยาวชนประพฤติตนไม่สมควร ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.22 และ 46/2558 รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ แก้ไขปัญหาเยาวชนรวมกลุ่มกันแข่งขันรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ผู้ใช้รถในทาง และที่พักอาศัยตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สนองนโยบายของรัฐบาลเรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง โดยการจัดตั้งคณะทำงานเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะ เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยเฉพาะการชักชวนเยาวชนออกมาแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงได้บูรณาการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการปราบปรามการแข่งรถในทางในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี การปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มเยาวชนที่มีพฤติการณ์ในการรวมกลุ่มมั่วสุมแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
จากการสืบสวนทราบว่ามี นายธีระพล อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ พิ๊มอส ฮัลโหลลล และTeeraphol Buajaturat ซึ่งเป็นเพจที่มีผู้ติดตามจำนวน 1,250 คน ได้ชักชวนเยาวชนแข่ง รถ จยย. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงในบริเวณที่มีการร้องเรียนมากที่สุด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเดือดร้อนรำคาญกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมถนนเป็นจำนวนมาก
และ นายปราโมทย์ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ “จิ๊กโก๋ สองโล” และ Mote Sdong ที่มีผู้ติดตามจำนวน 1,500 คน ซึ่งมีการชักชวนเยาวชนออกมารวมตัวแข่งขันรถในทางบริเวณ ถนนสายรังสิต-นครนายก ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นประจำ สร้างความเดือนร้อนรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเข้าสู่จังหวัดนครนายก
และจากสถิติการร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุจังหวัดปทุมธานีได้มีประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุฯ ว่า มีกลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวแข่งรถในทางสาธารณะในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมามีมากถึง 350 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ที่ จ.636/61 และ จ.637/61
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมสนธิกำลังเข้าจับกุม นายปราโมทย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.636/61 และจับกุม นายธีระพล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.637/61 นำส่ง สน.มีนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบก.จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์วิทยุฯ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่กวดขันป้องกันปราบปรามการแข่งขันรถในทางและได้ตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ผลการปฏิบัติการตรวจร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมจำนวน 131 ร้าน
พบร้านที่กระทำความผิดจำนวน 42 ร้าน ยึดท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานรวมจำนวน 277 อัน ผลการยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 150 คัน ตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่เพื่อหาสารเสพติดจำนวน 152 ราย แบ่งเป็นเยาวชน 15 ราย ผู้ใหญ่ 137 ราย พบสารเสพติดในปัสสาวะ จำนวน 29 ราย แบ่งเป็นพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในผู้ใหญ่ 23 ราย และพบสารเสพติดประเภทกัญชาในผู้ใหญ่ 6 ราย
และนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้อีก 2 ราย คือ นายอนุชา อายุ 27 ปีและ นายมารุต อายุ 18 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 459/61 ลงวันที่ 26 มิ.ย. 61 และ 465/61 ลงวันที่ 29 มิ.ย. 61 ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองเป็นหัวโจกกลุ่มเด็กแว้น 2 กลุ่ม ที่มีปัญหากันมานาน
เมื่อทั้งสองกลุ่มมาพบกันครั้งใดจะมีการทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ จนกระทั้งวันที่ 20 มิ.ย. 61 กลุ่มเด็กแว้นทั้ง 2 กลุ่ม ได้ออกไปแข่งรถกันในทางและได้พบกันจนเกิดการปะทะกันขึ้น โดย นายอนุชา ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มของ นายมารุต จำนวน 3 นัด มีเพื่อนนายมารุต โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ นายมารุต จึงใช้ระเบิดปิงปองประดิษฐ์เอง ปาใส่กลุ่มของนายอนุชา ทำให้กลุ่มของนายอนุชา โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บหลายราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวมรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองในความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร” และผู้ต้องหาทั้งสองได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในวันนี้ (29 มิ.ย.61)
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ