ตร.ปทุมธานีจับแก๊งลักรถแยกชิ้นส่วนส่งข้ามประเทศทางพัสดุ ของกลางอื้อ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 61 ที่สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.กก.สส.ภ.จวปทุมธานี
ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ คือนายอนิรุทธิ์ หรือยู อายุ 35 ปี พร้อมด้วย นายคิน สัญชาติพม่า อายุ 34 ปี ,นายซาฮิด อายุ 38 ปี
พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษ, หมวกกันน๊อค, สายรัดกล่องสีดำ, เครื่องมือช่าง ในการถอดประกอบรถ, ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่ไม่สามารถระบุคันได้, กระสอบพลาสติกสีขาว สำหรับหุ้มกล่องของกลาง, กล่องกระดาษเปล่า สำหรับบรรจุชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ พร้อมซิมการ์ด
พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผบช.ภ.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวคนร้ายที่ร่วมกันโจรกรรมรถจักรยานยนต์ภายในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ทราบว่าบ้านเช่าแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ถูกใช้เป็นที่เก็บรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักมาจากที่ต่างๆ แล้วนำมาแยกชิ้นส่วนเป็นชิ้นจากนั้นทำการบรรจุลงกล่องเพื่อส่งไปจำหน่ายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ทำการเฝ้าสังเกตพฤติการณ์
กระทั่งวันที่ 1 ก.ค.61 เวลาประมาณ 23.30 น. สามารถจับกุมตัวนายอนิรุทธิ์ หรือบังยู ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกลักมาจากห้างโลตัส สาขารังสิต และจะนำมาให้ นายคิน และนายซาฮิด แยกชิ้นส่วนที่ห้องดังกล่าว
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสามรับว่าร่วมกันลักรถจักรยานยนต์มาแล้วหลายคัน หลายท้องที่ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำคือ นายอนิรุทธิ์กับพวกทำหน้าที่ตระเวนลักรถจักรยานยนต์และนำมาส่งให้ที่บ้านดังกล่าว
ส่วนนายคิน และนายซาฮิด มีหน้าที่แยกชิ้นส่วนรถและบรรจุลงกล่องโดยใช้บ้านเช่าดังกล่าวเป็นสถานที่แยกชิ้นส่วน เมื่อได้จำนวนที่ต้องการแล้วจะโทรศัพท์ให้ชุดรับขนส่งรถ ขับรถยนต์มารับรถจักรยานยนต์ที่บรรจุใส่กล่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านบริษัทขนส่งเอกชน
จากการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทำให้ทราบว่านายอนิรุทธิ์กับพวก มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยมีพฤติการณ์ในการขับรถยนต์ตระเวนไปตามจุดต่างๆ เพื่อหารถเป้าหมายที่จะทำการโจรกรรมตามจุดที่มีการจอดรถในที่เปลี่ยว และเจ้าของรถจอดรถไว้เป็นเวลานาน โดยจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาทำลายเบ้ากุญแจ และสตาร์ทเครื่องยนต์ขับขี่นำรถมาส่งให้ชุดที่ทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนบรรจุลงกล่อง
จากนั้นขนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้บริษัทขนส่งเอกชนซึ่งที่ผ่านมาพบว่าระยะเวลา 2 เดือนกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุโจรกรรมรถจยย.ไปแล้วประมาณ 60 คัน โดยส่งจำหน่ายไปประเทศเพื่อนบ้านในราคาคันละ 2,000-3,000 บาท ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามขยายผลหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป