ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดเลยเข้าร่วมโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ เมื่อครั้งที่ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้หลอกให้ตำรวจที่ร่วมเข้าโครงการ 192 คนกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลยมาลงทุนจนต้องสูญเงินรวมกว่า 229 ล้านบาท

ต่อมา พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เป็นหัวหน้าพนักงานคณะกรรมการการสอบสวนข้อเท็จจริง

ล่าสุดวันนี้ (3 ก.ค.61) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในฐานะหัวหน้าพนักงานคณะกรรมการการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ตำรวจเลย เปิดเผยว่า

หลังจากที่หัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้มีหมายเรียกไปยัง พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ให้มารายงานตัวในวันที่ 2 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.ต.สุทิพย์ ได้เดินทางมารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนก่อนกำหนด ในวันที่ 30 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา

โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ก่อนพล.ต.ต.สุทิพย์ จะใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวออกไป ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยตำรวจภูธรภาค 4 จะมีการนัดพล.ต.ต.สุทิพย์ ให้มาพบเป็นระยะ

ขณะเดียวกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองฐานะผู้บังคับบัญชา ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้ เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงขั้นตอนให้ได้ทราบ ว่าขณะนี้ได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสบายใจขึ้น

โดยตำรวจภูธรภาค 4 ได้ประสานความร่วมมือในการตรวจสอบ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ปปง. ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากตรวจสอบพบว่าเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงใคร ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดหรือไม่

ซึ่งขณะนี้อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่เป็นผู้ต้องหาในขณะนี้ ก็มีความพยายามในการติดต่อฝ่ายที่มีการทำธุรกิจร่วมกันให้นำเงินมาคืน

สำหรับการช่วยเหลือตำรวจทั้ง 192 คน ที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยพยายามให้ทางสหกรณ์กำหนดวงเงินในอัตราที่สามารถผ่อนได้ ซึ่งตอนนี้ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้ว่าจ้างผู้ที่มีความชำนาญการด้านสหกรณ์ ที่เคยแก้ปัญหาสหกรณ์ที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดสุรินทร์

ส่วนสหกรณ์เองยังยืนยันว่า ยังคงมีสภาพคล่องเนื่องมีเงินฝากจากสหกรณ์ของตำรวจ และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมากว่า 100 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่าปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจะคลี่คลาย และได้ฝากไปยังผู้บังคับบัญชาของแต่ละโรงพักให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่องของการกู้ยืมเงิน

อัลบั้มภาพ อดีตผู้การจังหวัดเลย เข้ารับทราบข้อหา โกงเงิน 192 ตำรวจเลย ภาพที่ 2 / 3

อดีตผู้การจังหวัดเลย เข้ารับทราบข้อหา โกงเงิน 192 ตำรวจเลย