หนุ่มสะดุ้ง! กลายเป็นผู้ต้องสงสัยรับจ้างเปิดบัญชี หลอกเงินนับแสนบาท

ตำรวจรวบหนุ่มวัย 21 หลังมีชื่อเปิดบัญชีธนาคารหลายแห่ง หลอกคนซื้อโทรศัพท์มือถือเสียหายกว่า 20 ราย เงินหมุนกว่า 2 แสนบาท เจ้าตัวปฏิเสธลั่น บอกเคยทำบัตรประชาชนหาย ปัดรับจ้างเปิดบัญชี

(3 ก.ค.) พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ รอง ผกก.(สส.)สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย, พ.ต.ท.วิริยภาพ วิริยวังพรม สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันสอบปากคำ นายศักดิ์ไชยสิทธิ์ อายุ 21 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการเปิดบัญชีธนาคารหลอกลวงผู้ซื้อโทรศัพท์ผ่านเฟซบุ๊ก

คดีนี้ พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ รองผกก.(สส.) ได้รับการประสานจาก ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ว่าขอให้ติดตามจับกุมตัวนายศักดิ์ไชยสิทธิ์ ซึ่งทราบว่าอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ เนื่องจากวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเป็นหญิงรายหนึ่งแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ว่าได้ติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่งทางเฟซบุ๊ก ในราคา 11,600 บาท แล้วโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของนายศักดิ์ไชยสิทธิ์ แล้วปรากฏว่าไม่ได้รับสินค้า เมื่อสอบถามไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้

จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าบ่อ ได้ควบคุมตัวนายศักดิ์ไชยสิทธิ์ ได้ขณะอาศัยอยู่กับตายายที่ อ.ท่าบ่อ มาทำการสอบสวน ซึ่งนายศักดิ์ไชยสิทธิ์ อยู่ในสถานะของผู้ต้องสงสัย ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.หนองบัวลำภู ได้มาอายัดตัวไปทำการสอบสวน

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มบุคคลเปิดเฟซบุ๊กซื้อขายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ และหนึ่งในนั้นมีผู้หญิงที่ขายโทรศัพท์มือถือแล้วให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องสงสัยหลายธนาคาร รวมกว่า 20 ราย ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นเงินกว่า 2 แสนบาท

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น นายศักดิ์ไชยสิทธิ์ ให้การว่า ตนเคยไปทำงานปั๊มน้ำมัน เมื่อ 3 ปี ก่อน ที่ จ.สมุทรสาคร แล้วได้เปิดบัญชีธนาคาร 1 แห่ง หลังจากนั้นไม่ได้ทำงาน ก็เดินทางกลับมาอยู่กับตายาย อ.ท่าบ่อ โดยก่อนหน้านี้เคยทำบัตรประชาชนหายที่ จ.อุดรธานี และได้ทำบัตรใหม่

และช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ไปดื่มเหล้าบ้านเพื่อนในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ ก็ทำบัตรประชาชนหายอีก แต่ยังไม่ได้แจ้งความและยังไมได้ทำบัตรใหม่ โดยยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่เคยรู้จักกับผู้ที่เปิดเฟซบุ๊กซื้อขายโทรศัพท์แต่อย่างใด