ไทยพร้อมจัดถกสธ.อาเซียนกันหวัดเม็กซิโก

ไทยพร้อมจัดถกสธ.อาเซียนกันหวัดเม็กซิโก

ไทยพร้อมจัดถกสธ.อาเซียนกันหวัดเม็กซิโก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปลัดบัวแก้วเผยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม รมว.สาธารณสุขอาเซียน 7-8 พ.ค.นี้ ยันคนไทยในเม็กซิโกปลอดภัยดี หากอยากกลับประเทศให้แจ้งสถานทูตไทย ในกรุงเม็กซิโกซิตี้ ปธน.เม็กซิโกขอให้ประชาชนอยู่บ้านช่วง 5 วันที่หน่วยงานรัฐ เอกชนบางแห่งหยุดทำการ ผู้เชี่ยวชาญปฏิเสธไม่ได้สนใจแต่ไข้หวัดนกจนปล่อยให้หวัดญ่เม็กซิโกระบาด กทม.แจกเพิ่มหน้ากากอนามัยอีก 5 แสนชิ้น ผู้ว่าฯพิจิตรออกตรวจฟาร์มหมูสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค

(30เม.ย.) นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาเซียน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้กรุงเทพมหานครเป็นสถานที่จัดการประชุมในระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค. นี้ โดยที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ในฐานะประธานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอาเซียน ตอบรับจะเดินทางมาในวันดังกล่าว

ส่วนประเทศที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการทาบทาม โดยการประชุมในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากผลที่ได้จากการประชุมครั้งนี้จะใช้เป็นท่าทีของกลุ่มชาติสมาชิกอาเซียนนำไปเสนอและหารือร่วมกันในการประชุมสภาสาธารณสุขโลก ที่จะมีการประชุมในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ ที่กรุงเจนิวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นายวีระศักดิ์ ยืนยันว่า คนไทยที่อยู่ในประเทศเม็กซิโก ยังคงปลอดภัยดี แต่หากมีความประสงค์จะกลับประเทศก็ให้แจ้งกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโกซิตี้

เลขาธิการอาเซียนระบุไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ บอกเรื่องนี้หลังได้ปรึกษาหารือกับไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ข้อสรุปว่า รัฐมนตรีสาธารณสุขของ 10 ชาติอาเซียน จะประชุมเพื่อหารือถึงสถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่กรุงเทพ เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขของไทยพร้อมแล้วที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และฟิลิปปินส์อาจทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม

แนวคิดในเรื่องนี้มีขึ้นหลังนายกรัฐมนตรี ฮุนเซนของกัมพูชาออกมาเรียกร้องเมื่อวานนี้ ให้ผู้นำอาเซียนจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหามาตรการป้องกันและต่อสู้กับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใดในชาติอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ แต่กำลังมีการตรวจสอบคนที่มีอาการไข้หวัดที่อยู่ในข่ายเสี่ยง

รัฐบาลในเอเชียเคยมีประสบการณ์รับมือการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์ส เมื่อปี 2546 และการระบาดของไข้หวัดนก ที่คร่าชีวิตประชาชนไป 257 คน ส่วนใหญ่อยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนายสุรินทร์บอกก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่มีประสบการณ์จากการรับมือกับการระบาดของโรคดังกล่าวทำให้จะสามารถประสานงานกันเพื่อรับมือกับไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกที่เสี่ยงลุกลามสู่ภูมิภาคได้

ปัจจุบันอาเซียนมียาต้านไวรัส 5 แสนชุดเก็บสำรองในสิงคโปร์ และมีอีก 5 แสนชุดที่ได้แจกจ่ายไปยังชาติสมาชิกแล้ว โดยนายสุรินทร์ บอกว่า อาเซียนมีระบบการแจกจ่ายยาที่อยู่ในสำรองในกรณีที่เกิดการระบาด

ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในอาเซียน ได้หารือกันผ่านทางการประชุมทางโทรศัพท์ ถึงความสำคัญของการร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และยังได้หารือถึงมาตรการที่แต่ละประเทศนำออกมาใช้ รวมถึงการคัดครองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศที่พบการระบาด โดยใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ,การกรอกประวัติสุขภาพ และการให้คำแนะนำกับผู้โดยสาร

ปธน.เม็กซิโกขอให้ประชาชนอยู่บ้านช่วง5วัน

ประธานาธิบดีเฟลิเป้ คัลเดรอน ของเม็กซิโก แถลงทางโทรทัศน์ถึงประชาชนทั่วประเทศเมื่อวานเรียกร้องให้ชาวเม็กซิโกอยู่แต่ในบ้านตลอด 5 วันในช่วงที่หน่วยราชการและบริษัทเอกชนที่ไม่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจได้รับคำสั่งให้หยุดทำการระหว่างวันที่ 1-5 พฤษภาคมนี้ โดยเขาบอกว่าบ้านเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดและขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการไปสถานที่สาธารณะต่างๆ แต่เขาได้ย้ำว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจยังคงดำเนินการตามปกติ รวมทั้งกล่าวให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่ารัฐบาลมียาต้านไวรัสมากพอที่จะรักษาประชาชนได้มากถึง 1 ล้านคน การแถลงทางโทรทัศน์ครั้งนี้มีขึ้นครั้งแรกนับจากวิกฤติโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า บริการที่จำเป็น เช่น ระบบคมนาคมขนส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต การเก็บขยะ และโรงพยาบาลจะยังทำการตามปกติ นอกจากนี้ธนาคารกลางและสถาบันการเงินอื่นๆ ธนาคารพาณิชย์บริษัทน้ำมันของรัฐ ร้านจำหน่ายยา และสถานีบริการน้ำมันยังเปิดตามปกติ

ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกแถลงเมื่อวานลดตัวเลขผู้ที่คาดว่าอาจเสียชีวิตด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ลงเหลือ 84 คนจากเดิม 159 คน แต่มีจำนวนผู้ได้รับการยืนยันติดเชื้อที่เสียชีวิต 8 คนและป่วยอีก 91 คน

ผู้เชี่ยวชาญปฏิเสธไม่ได้สนใจแต่ไข้หวัดนกจนปล่อยให้หวัดญ่เม็กซิโกระบาด

นับเป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่นักวิทยาศาสตร์พากันเตือนถึงความเสี่ยงที่โลกจะต้องเผชิญการระบาดของไข้หวัดใหญ่ แต่ความสนใจของโลกกลับมุ่งเน้นไปที่ไข้หวัดนก ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ที่มีต้นกำเนิดมาจากไวรัสที่ระบาดในหมู การระบาดของไข้หวัดนกเมื่อปี 2547 ที่ส่งกระทบรุนแรงต่อเอเชีย และยิ่งไปกว่านั้น ได้นำไปสู่การที่รัฐบาลและองค์กรด้านสาธารณสุขนานาชาติ ต่างพากันรวบรวมทรัพยากรจำนวนมหาศาล เพื่อต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ H5N1 ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า การพุ่งให้ความสนใจต่อไวรัสไข้หวัดนก ทำให้นักวิทยาศาสตร์ถอนความสนใจต่อไวรัสชนิดอื่น จนเป็นกลายเปิดทางให้ไวรัสที่เกิดระบาดในหมู สร้างความตื่นตระหนกให้กับโลกหรือไม่

ผู้เชี่ยวชาญพากันปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ก็ยอมรับว่า ควรจะให้ความสนใจจับตาไวรัสที่เกิดจากหมูให้มากกว่านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคน ต่างไม่ยอมรับประเด็นที่ว่าพวกเขาอาจพลาดสัญญาณเตือน ที่อาจกระตุ้นพวกเขาได้ตระหนักถึงวิกฤติที่ประทุขึ้นในเม็กซิโก ทำให้มีผู้เสียชีวิต และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ไปตามพรมแดนต่าง ๆ ที่ติดกับยุโรปตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือและเอเชีย

โจเซฟ โดเมเนช หัวหน้าภาคสัตวศาสตร์ ขององค์การอาหารและเกษตรกรรม ในกรุงโรมของอิตาลี เปิดเผยว่า ไม่มีรายงานการระบาดครั้งใหญ่ในหมู เมื่อปีที่แล้ว ที่สามารถอธิบายถึงกำเนิดของไวรัสในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ไวรัสตัวใหม่นี้ ก็ปรับปรุงสายพันธุ์จากไวรัสสายพันธุ์เดิมที่พบในมนุษย์มานานหลายทศวรรษแล้ว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากไม่คิดว่าจะเป็นต้นตอให้เกิดการระบาดรุนแรงได้

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในโลก มักจะเป็นไวรัสรูปแบบใหม่ เช่นH5N1 ในไข้หวัดนก ซึ่งไม่ง่ายที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์ โดเมเนช ระบุว่า ไวรัสชนิดใหม่นี้ อาจเป็นไวรัสในหมูที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์อันตรายในรูปแบบที่ทำให้เกิดการติดต่อระหว่างมนุษย์-สู่-มนุษย์ ซึ่งหมายถึงว่า จะไม่ถึงว่า จะเกิดไข้หวัดในมนุษย์อย่างผิดปกติในมนุษย์ แทนที่จะเป็นในหมู และมีข้อสังเกตด้วยว่า ไม่พบอาการป่วยใน
มนุษย์ที่เชื่อมโยงกับหมูแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ก็ไม่ได้แนะนำให้ฆ่าหมู ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้กับสัตว์ปีก ในสมัยที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนกแต่อย่างใด

กทม.แจกเพิ่มหน้ากากอนามัยอีก 5 แสนชิ้น

นอกจากการแจกหน้ากากที่ศาลาว่าการ กทม.แล้ว กทม.จะมีการเตรียมหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมอีก 500,000 ชิ้น ไว้ที่หน่วยงานของ กทม.ทั้งสำนักงานเขต 50 เขต ศูนย์สาธารณสุขทุกแห่ง ศาลาว่าการ กทม.1 และกทม. 2 ดินแดง ซึ่งประชาชนสามารถมารับได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 พ.ค.นี้ สำหรับหน้ากากนั้นเป็นหน้ากากผ้าอย่างดีที่ กทม.จัดซื้อในราคา 5 บาท เป็นหน้ากากที่ซักได้ไม่ต้องทิ้งเพื่อซื้อใหม่ ซึ่งสามารถกรองเชื้อโรคได้ถึง 60 % อย่างไรก็ตามประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงว่าหน้ากากจะไม่เพียงพอ เนื่องจาก กทม.จะจัดซื้อมาให้มากที่สุดให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

ผู้ว่าฯพิจิตรออกตรวจฟาร์มหมูสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค

นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจตรวจสุขลักษณะฟาร์มเลี้ยงสุกรที่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร บริเวณหมู่ที่ 9 ตำบลดงตะขบ อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ซึ่งพื้นที่ในเขตอำเภอตะพานหิน มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจำนวน 22 แห่ง จำนวน 7334 ตัว โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตรทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ พร้อมกับโรยปูนขาว เพื่อป้องกันเชื้อโรค เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าสะอาดและปลอดภัย

นายสมชัย กล่าวว่า การตรวจฟาร์ม พบว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ได้รักษาสุขลักษณะความสะอาด ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานของกรมปศุสัตว์ พร้อมทั้งแบ่งทีมงานออกเป็น 2 ชุด โดยให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจความผิดปกติของสุกร เก็บตัวอย่างปัสสาวะของสุกร ตรวจหาสิ่งผิดปกติ ตั้งแต่สายพานการผลิตตั้งแต่เริ่มต้น ตลอดจนการรักษาความสะอาดของโรงเรือนให้ถูกต้องตามลักษณะของกรมปศุสัตว์ จนถึงโรงเชือดและบรรดาเขียงหมูจนถึงผู้บริโภค

พร้อมกันนี้ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิจิตรตรวจสุขภาพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรด้วย พร้อมทั้งออกให้ความรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับการติดต่อและการป้องกันของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ในส่วนของหมูเถื่อนที่มีกระแสข่าวออกมา ในเรื่องนี้ได้สั่งการให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ออกสำรวจตามตลาดนัดตอนเช้า พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจสุขลักษณะการเลี้ยงสุกรภายในบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคให้หันกับมาบริโภคสุกรด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook