นักสำรวจถ้ำอังกฤษ เล่านาทีเงยหน้าเจอทีมหมูป่า 13 ชีวิต เพราะ "เชือกหมดพอดี"
นายจอห์น โวแลนเธน นักดำน้ำชาวอังกฤษ ที่เจอทีมหมูป่า 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำเป็นคนแรก เล่าให้นายเวอร์นอน อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นเพื่อน ฟังถึงวินาทีที่พบตัวทั้ง 13 คน ว่า ถ้าเชือกนำทางสั้นกว่านี้แค่ 15 ฟุต (4.5 เมตร) เขาคงถอดใจและว่ายน้ำกลับ และคงยังไม่เจอเด็กๆ 12 คนกับโค้ช ในคืนวันจันทร์ (2 มิ.ย.) ทีมหมูป่าคงต้องนอนในความมืดกันอีกคืน โดยไม่รู้ว่าจะมีคนมาช่วยหรือไม่
นักสำรวจถ้ำคนนี้ เล่าอีกว่า ตอนที่นายจอห์น กำลังวางเชือก เพื่อนำทางให้หน่วยซีลและทีมกู้ภัยคนอื่นๆ รุกเข้าไปใกล้จุดที่คาดว่าจะเจอ 13 ชีวิต อยู่นั้น เชือกดันหมดพอดี ทำให้เขาตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ไฟฉายที่คาดศีรษะของเขา ส่องไปข้างหน้า และพบว่า ทั้ง 13 คนที่คนทั้งโลกอยากเจอ กำลังจ้องมาที่เขา เท่ากับว่า 10 วันที่ทำงานแข่งกับเวลา ฝน และน้ำในถ้ำ ประสบความสำเร็จแล้ว
นายจอห์น นักดำน้ำชาวอังกฤษ เล่าให้นายเวอร์นอนฟังว่า ตอนที่เขาเจอตัวน้องๆ บางคนก็นั่ง บางคนก็ยืน ส่วนตัวเขาก็โล่งอกที่เจอตัวทั้ง 13 คน และตอนนั้นเองเด็กคนหนึ่งคงหิวมาก เลยพูดขึ้นมาว่า "หิว"
อย่างไรก็ตาม แม้พบตัวเยาวชน 12 คนและโค้ช ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี แล้ว แต่การนำตัวออกมาก็ยากไม่แพ้กัน ซึ่ง น.อ.อนันต์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับกรมรบพิเศษ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) ประเมินว่า หากสถานการณ์แย่ที่สุด คงต้องใช้เวลา 4 เดือน หรือหมดหน้าฝน จึงจะนำตัวทั้ง 13 ชีวิตออกมาได้
นายเวอร์นอน นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ที่สำรวจถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย มา 6 ปี กลับเห็นว่า ถ้าให้นักดำน้ำในถ้ำที่มีประสบการณ์ นำตัวเด็กเหล่านี้ออกมาโดยเร็ว คงจะดีกว่าให้รออยู่ในถ้ำเป็นเดือนๆ
"นักดำน้ำของหน่วยซีล และนักดำน้ำในถ้ำที่มีประสบการณ์คนอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจนี้ นำตัวเด็กๆ และโค้ช ออกมาจากทางที่มีน้ำท่วมได้อย่างปลอดภัยอยู่แล้ว แต่การปล่อยให้อยู่ในถ้ำจนหมดฤดูฝน ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีแน่" นายเวอร์นอน กล่าว