ขึ้นชื่อว่าโจร รวบโจรใจบาปลักระฆังและฆ้องใหญ่ในวัด

วันนี้(4 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 11.00น. ที่สถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พันตำรววจเอก ณรงค์  สายโณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว พร้อมด้วย พันตำรวจโท ยศกร  พันธ์ศิริ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว

และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ได้ควบคุมตัว นายเกียรติศักดิ์  อายุ 16 ปี ขาวตำบลโพธิ์ศรี อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ต้องหา

พร้อมด้วยฆ้องทองเหลืองขนาดใหญ่ จำนวน 1 อัน และระฆังทองเหลืองอีก จำนวน 10 ใบ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ คันหมายเลขทะเบียน บห-9919 อุดรธานี ซึ่งเป็นของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ภายหลังจากที่ได้มีกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยมีรถกระบะเป็นพาหนะพากันตระเวนลักฆ้องและระฆังทองเหลืองตามวัดต่างๆในพื้นที่ตำบลเหล่าไฮ และตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 และ 2 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา

ซึ่งมีวัดในพื้นที่ถูกกลุ่มคนร้ายลักระฆังจากหอระฆังภายในวัดหายไปต่อเนื่องกันถึง 4 วัด และมีฆ้องและระฆังถูกลักหายไปกว่า 10 ใบ จนทางวัดที่ได้รับความเสียหาย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว ได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้าย คือ นายเอกชัย  เหลื่อมใส เป็นชาวอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีบ้านพักอยู่กลางทุ่งนา ในพื้นที่ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

พบกลุ่มของคนร้ายอยู่ภายในบ้านพักประมาณ 5 คน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พากันวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทางและสามารถจับกุมตัวได้เพียง 1 คน คือ นายเกียรติศักดิ์  ผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดรถกระบะคันที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 คัน จอดอยู่ภายในบ้านพัก

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริงโดยร่วมกับเพื่อนๆที่หลบหนีไปได้พากันตระเวนหาลักฆ้องและระฆังที่แขวนเอาไว้ตามวัดต่างๆในพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยตนมีหน้าที่ขึ้นไปปลดเอาระฆังที่อยู่บนหอระฆังตามวัดลงมาก่อนจะนำขึ้นรถพากันหลบหนีไป

และจะได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท จากนั้นกลุ่มเพื่อนๆที่ไปด้วยกันก็จะนำระฆังที่ลักได้ไปขายให้กับร้านรับทำระฆังต่อไป และอ้างว่าพึ่งจะก่อเหตุในครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะจากการตรวจสอบประวัติของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้พบว่ามีประวัติพากันตระเวนลักฆ้องและระฆังตามวัดต่างๆทั่วภาคอีสาน 

พันตำรวจโท ยศกร  พันธ์ศิริ รองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว บอกว่า พฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้จะอาศัยเวลาในช่วงกลางคืนโดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะและรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน

เป็นรถตรวจสอบเส้นทางแล้วพากันตระเวนลักเอาฆ้องและระฆังทองเหลืองตามวัดต่างๆในพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร หลังจากได้ของแล้วจึงพากันหลบหนีทันทีก่อนที่จะนำฆ้องและระฆังที่ลักมาได้ไปขายให้กับร้านที่รับทำฆ้องและระฆังในอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

ซึ่งจากการสืบสวนแกะรอยของกลุ่มคนร้ายจึงทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนที่จะสามารถติดตามจับกุมตัวพร้อมของกลางได้ดังกล่าว ซึ่งมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท