“เจนี่” พูดครั้งแรกหลังถูกขอแต่งงาน ขอบคุณแม่มิกกี้ที่ต้อนรับลูกสะใภ้คนนี้
สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับเพื่อนพ้องและแฟนๆ อีกครั้ง สำหรับนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ที่ถูกหวานใจหนุ่มรุ่นน้องที่มีอายุห่างกัน 9 ปี อย่าง มิกกี้-นนท์ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร หรือ มิกกี้ เดอะเฟซ คุกเข่าขอแต่งงานสุดโรแมนติกท่ามกลางสายลมและน้ำทะเลที่ประเทศอเมริกา หลังศึกษาดูใจกันไม่นาน
จนทำเอาหลายคนอดลุ้นหนักไม่ได้ว่าฤกษ์วิวาห์รอบ 2 ของสาวเจนี่ คือช่วงเดือนตุลาคมอย่างที่เคยมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้มาหรือเปล่า
ล่าสุดในงานซัมซุง คิว แอลอีดี ทีวี เจนี่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกหลังจากที่เพิ่งกลับมาที่ประเทศไทย โดยเจ้าตัวได้เผยให้ฟังว่า ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่รูปภาพปรากฏ ยอมรับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยมานานแล้ว ซึ่งคุณแม่ของมิกกี้เองทำให้เธอเชื่อมั่นและตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่อีกครั้ง
ถามถึงเรื่องราวดีๆ ที่เพิ่งลงรูปในไอจี กับช่วงเวลาที่ถูกมิกกี้คุกเข่าขอแต่งงาน ?
"เป็นอย่างในภาพเลยค่ะ คือจริงๆ มันเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ได้มานั่งประดิษฐ์ เป็นไปตามความรู้สึกจริงๆ"
ตอนนั้นรู้ตัวมาก่อนไหมว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ ?
"ไม่ค่ะ ถ้ารู้ก็คงแต่งหน้าเนอะ (หัวเราะ) ไม่ใส่รองเท้าแตะ คือตอนนั้นเราไปทะเล"
จำได้ไหมว่าตอนนั้นมิกกี้พูดว่าอะไรบ้าง ?
"โห ตอนนั้นหูอื้อมากเลย เหมือนตอนนั้นเจนี่ปวดท้องอึ (หัวเราะ) เจนี่ก็บอกเขาว่าเดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะไม่ไหวแล้ว เขาก็บอกว่าดูดอกไม้สิ แล้วเจนี่ก็บอกว่าดูทำไม ของคนอื่นเขาอย่าไปยุ่ง เขาก็บอกนี่ไงดูดอกไม้ แต่เจนี่ไม่ไหวบอกไปเถอะ ไม่ไหวแล้วปวดท้องมาก เขาก็เลยคุกเข่าลงไป ตอนนั้นเจนี่ก็เริ่มหูอื้อไปแล้ว"
เห็นว่าเขาเตี๊ยมกับนานาไว้ด้วย ?
"ใช่ เขาเตี๊ยมกันไว้ตั้งแต่กรุงเทพฯ ทั้งแก๊งเลย ทั้งเพื่อนที่กรุงเทพฯ และเพื่อนที่อเมริกาด้วย"
>>"นานา" เผย "มิกกี้" มาปรึกษาเรื่องขอ "เจนี่" แต่งงาน เอ่ยชมฝ่ายชายเป็นคนใจเย็น
ก่อนหน้านี้เราไม่ได้มีเซนส์เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยใช่ไหม ?
"ไม่ได้คิด ไม่ได้อยากคาดหวังค่ะ และไม่อยากเหมือนจะเข้าข้างตัวเองว่าต้องมีอะไร เพราะด้วยความที่ทริปนี้วางแผนมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว ปกติปีหนึ่งเจนจะต้องมาอเมริกาอยู่แล้ว"
วันนั้นเราตอบเซย์เยสทันมีเลยไหม ?
"ก็... คือตอนนั้นมันหูอื้อและด้วยความซึ้ง ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ก็เลยตอบตกลง"
นอกจากดอกไม้แล้ว มีแหวนให้ด้วยหรือเปล่า ?
"ก็มีค่ะ เป็นแหวนปกติเลย"
หลังจากคุกเข่าขอแต่งงานแล้ว มีวางแผนอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งหรือยัง ?
"จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าที่เจนตัดสินใจมันไม่ใช่แค่มิกกี้คนเดียว เพราะอย่างที่พี่ๆ ทราบคือที่ผ่านมาความรักของเจนี่มันไม่ได้สวยงามมากนัก เพราะฉะนั้นการที่เจนี่จะตัดสินใจใช้ชีวิตกับใครสักคนในอนาคต มันค่อนข้างเป็นอะไรที่ลำบากใจสำหรับเจนี่มาก เพราะมันคือชีวิตทั้งชีวิตจริงๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เจนี่ตัดสินใจครั้งนี้ก็คือคุณแม่ของมิกกี้"
"คือคุณแม่ได้มีการพูดคุยกับเจนี่ไว้ก่อนที่มิกกี้จะขอในครั้งนี้ เพราะฉะนั้นมันก็เลยทำให้เจนี่รู้สึกอุ่นใจ และทำให้เรารู้สึกว่าเราปลอดภัยทางความรู้สึก มันมากกว่าคำว่าแฟนคือคุณแม่ เราก็เลยรู้สึกว่าความรักของคุณแม่เป็นอะไรที่ครบค่ะ ทั้งความเข้าใจ และความรักจากคุณแม่ มันทำให้เจนี่รู้สึกว่าเจนี่อบอุ่น และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาไปด้วย อีกอย่างตัวเจนี่เองไม่อยากให้มีปัญหาอะไร หรือจะต้องให้อดีตมาทำร้ายปัจจุบันและสถานการณ์ที่มันเป็นอยู่"
แล้วในส่วนของตัวมิกกี้เอง เขาสร้างความมั่นใจให้เรามากน้อยแค่ไหน ?
"เอาจริงๆ นะคะ คุณแม่สร้างความมั่นใจให้เจนี่มากกว่า (ยิ้ม) เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ ความรักจากครอบครัวมันทำให้เรารู้สึกว่ามิกกี้ให้ความรักเรามายังไง นั่นมันคือความรักจากในสิ่งที่คุณแม่เขาให้มา"
ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวจะแต่งช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ก็แสดงว่าเป็นเรื่องจริง ?
"แต่ไม่ใช่วันที่พี่พูดค่ะ ขอให้เกิดวันนั้นก่อนแล้วกันเนอะ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเจนไม่อยากพูดนะ แต่การที่เจจะพูดอะไรไปมันต้องระวัง และมันต้องให้เกิดก่อนค่ะ เจนเชิญพี่ๆ แน่นอน"
เราดูฤกษ์หรือเอาฤกษ์สะดวก ?
"พระดูฤกษ์ให้ค่ะ ก็ได้มาแล้ว"
คุณแม่เราเองว่ายังไงบ้าง ?
"คุณพ่อคุณแม่ของมิกกี้ได้คุยกับคุณแม่ของเจนี่ไว้นานแล้วเหมือนกันค่ะ คือทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ มันไม่ใช่แค่ความรักระหว่างเจนี่กับมิกกี้อย่างเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากความรักของครอบครัวของมิกกี้และคุณแม่ของเจนี่ด้วยเหมือนกันค่ะ"
ทางแม่มิกกี้ให้สัมภาษณ์ว่าถ้าแต่งแล้วอยากมีหลานเลย เราโอเคไหม ?
"ก็ต้องดูอีกทีหนึ่งค่ะ (ยิ้ม)"
เรามีการพูดคุยถึงอนาคตกับมิกกี้อย่างไรบ้าง ?
"ก็มีบ้างค่ะ"
อยากมีลูกไหม ?
"อุ้มหลานมา เล่นกับหลานมาเราก็อยากมีเป็นของตัวเองบ้าง ก็จะพยายามนะคะ มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น (ยิ้ม)"
คนมองว่าอาจจะใช้เวลาน้อยไปในการศึกษาดูใจกัน เราว่าอย่างไรบ้าง ?
"เจนี่ว่าชีวิตคู่ระยะเวลาบางครั้งมันเป็นเรื่องของคนสองคนค่ะ บางคนคบกันแค่ 2 เดือนแล้วแต่งมันก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นเจนี่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของความผูกพัน เหมือนกับคุยภาษาเดียวกัน มองตากันก็รู้ใจค่ะ"
หลายคนเป็นห่วงเรื่องของอายุที่ห่างกัน ?
"ตอนแรกเจนี่ก็คิดนะคะ ต้องบอกก่อนว่าเจนี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าอายุมันเป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับเจนี่ เจนี่เองก็คิดว่าคนที่อายุน้อยกว่า จะมีความคิดหรือว่าประสบการณ์ชีวิตที่มันเท่ากับเราหรือเปล่า แต่กับกลายเป็นว่ามิกกี้เขาโตกว่าเจนี่ คืออะไรหลายๆ อย่าง ความคิดแล้วก็วิธีการวางแผนจัดการชีวิต เขาจะมีแบบแผนการจัดการที่ค่อนข้างเป็นระบบ เพราะฉะนั้นเจนี่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ"
การแต่งงานครั้งนี้ เราคาดหวังขนาดไหน ?
"เจนไม่อยากคาดหวังค่ะ จริงๆ เจนี่เป็นคนที่ชิว อะไรจะเกิดก็คือเกิด เพียงแต่ว่าเจนี่ทำวันนี้ให้มันมีความสุข แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรให้เดือดร้อนใครเท่านั้นก็พอค่ะ"
แสดงว่าทุกวันนี้ไม่ต้องปรับจูนอะไรกันแล้วใช่ไหม ?
"อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเจนี่เองกับมิกกี้ เกิดที่อเมริกา โตที่อเมริกา มันก็เลยกลายเป็นว่าเหมือนกับเราคุยภาษาเดียวกัน แล้วก็มีความคิดแบบเดียวกัน"
เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวหรือยัง อีกแค่ไม่กี่เดือนแล้ว ?
"ก็น่าจะทันค่ะ ตอนนี้ก็มีเพื่อนช่วยค่ะ"
งานจะอลังการไหม ?
"ไม่ๆ คือเจนอยากทำให้มันง่ายที่สุด ไม่เว่อร์วังตามสไตล์เจนี่ คือเจนี่เป็นคนที่ชอบอะไรเรียบง่าย ไม่ชอบอะไรที่มันเยอะๆ หรือว่าแบบมากมายค่ะ"
เริ่มเตรียมงานหรือยัง ?
"ก็มีบ้างค่ะ"
จะเชิญแขกประมาณกี่คน ?
“ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ค่ะ”
ที่มีข่าวว่าปิดเกาะสมุยเลย จริงไหม ?
“(หัวเราะ) เดี๋ยวรอให้ถึงวันนั้นแล้วกันเนอะ (ยิ้ม)”
คาดว่าจะอีกประมาณกี่เดือน ?
"เอาให้ถึงตอนนั้นแล้วพี่ๆ จะได้รู้แน่นอนค่ะ ให้ถึงวันนั้นก่อนดีกว่าค่ะ (ยิ้ม)"
จะจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องเป็นราวเลยไหม ?
"รอให้ถึงวันนั้นก่อนได้ไหมอะ ไม่ใช่ว่าเจนไม่อยากบอกพี่ๆ นะ แต่ว่าอะไรที่เกิดวันนั้น เจนจะบอก ณ วันนั้น อะไรที่ยังไม่เกิด เจนก็ยังไม่อยากพูด เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้างค่ะ"
แหวนที่เขาของเราวันนั้น วันนี้ใส่มาด้วยไหม ?
"ยังไม่ได้ใส่ค่ะ (ยิ้ม) เขิน"
สินสอดเท่าไหร่ ?
"อันนั้นให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เนอะ (ยิ้ม)"
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ