ทักษิณ แจงไม่ได้เป็นหัวหน้าคนเสื้อแดง

ทักษิณ  ออกแถลงการณ์ฉบับ 2 ปัดไม่ได้เป็นหัวหน้าม็อบและชักใยกลุ่มคนเสื้อแดง ยันไม่ใช้อาวุธ-ความรุนแรง อ้างถูกบิดเบือดป้ายสี

(1พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ทีมงานนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ภายหลังเกิเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง 12-13 เมย. 2552 มายังจดหมายอีเล็กทรอนิก (e-mail) ของผู้สื่อข่าวหลายสำนัก โดยใจความสำคัญในคำแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณได้ ปฎิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือปลุกระดมการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ และไม่ได้เป็นผู้ชักใยสร้างความวุ่นวายทางการเมือง ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหวทางการเมือง

ซึ่งสาเหตุการออกแถลงการณ์ครั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองและครอบครัว ตลอดคนกลุ่มสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณที่ มาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิป ไตย ต้องตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมืองของฝ่าย หนึ่งฝ่ายใดหนึ่ง โดยรายละเอียดคำแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ฉบับที่ 2 มีดังนี้

แถลงการณ์ฉบับที่ 2/2552 ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

"ประชาธิปไตยที่แท้จริงคือรากฐานของการปรองดองแห่งชาติ "

ภาย หลังจากที่การชุมนุมของประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยถูกสลายโดยกำลังทหาร ที่ใช้อาวุธสงคราม และต่อมามีการบิดเบือนและกล่าวหาผมอย่างเป็นระบบโดยผู้มีอำนาจว่า ผมเป็นผู้นำม็อบเพื่อสร้างความวุ่นวายให้เกิดในบ้านเมือง และกล่าวหาว่าการชุมนุมของประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนั้นได้กระทำไป เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของผมและครอบครัว และมีแนวโน้มว่าการบิดเบือนใส่ร้ายจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคน

ผมขอเรียนว่า แม้ว่าผมได้ให้กำลังใจแก่ประชาชนผู้มาชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และความเป็นธรรม การดำเนินการของผมในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้กระทำไปด้วยสำนึกในความปรารถนาและความพยายามของคนไทยที่ได้ร่วมต่อสู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและความเป็นธรรมแท้จริงเพราะประชาธิป ไตยที่แท้จริงเท่านั้นที่จะเป็นรากฐานของการปรองดองของคนในชาติ และการปรองดองของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไปได้ โดยผมได้ย้ำว่าการดำเนินการต้องกระทำโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และปราศจากอาวุธ

แม้ผมพำนักอยู่ในต่างประเทศ แต่ผมก็ยังรักประเทศชาติ และห่วงใยชีวิตคนไทยไม่น้อยไปกว่าเมื่อครั้งที่ผมยังเป็นนายกรัฐมนตรี และผมปรารถนาที่จะเห็นบ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ประเทศและประชาชนคนไทยสามารถฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุด ครั้งนี้ไปให้ได้ ผมขอเรียกร้องให้รัฐ บาล และทุกภาคส่วนของไทยให้เปิดใจให้กว้างและยอมรับว่าการชุมนุมโดยสงบ สันติ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยนั้นย่อมกระทำได้ และผมขอสนับสนุนและให้กำลังใจการดำเนินการตามแนวทางนี้

ผมเห็นว่าประโยชน์ชาติต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตัวของผม และเพื่อป้องกันมิให้มีการบิดเบือนว่าการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนผู้รัก ประชา ธิปไตยกลุ่มใดๆนั้น ได้กระทำไปเพื่อตัวผมเอง ทั้งๆที่ในความเป็นจริง พี่น้องประชาชนเหล่านั้นดำเนินการไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและความเป็นธรรมที่แท้จริงในประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่สูงส่งและมีคุณค่าสำหรับคนไทยทุกคน

ดังนั้น โดยแถลงการณ์นี้ ผมขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า แม้ผมเป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมเดินบนเส้นทางในการเรียกร้องประชาธิปไตยและความ เป็นธรรมให้กับคนไทย แต่ผมไม่ได้เป็นผู้ชักใยหรืออยู่เบื้องหลังการชุมนุมเพื่อสร้างความวุ่นวาย ทางการเมืองแต่อย่างใด ผมขอแถลงยืนยันมา ณ ที่นี้ เพื่อป้องกันมิให้ผม และพี่น้องประชาชนผู้รักสันติ ที่มาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น ต้องตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมืองของฝ่าย หนึ่งฝ่ายใดต่อไป

พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
1 พฤษภาคม 2552