อนุพงษ์ไม่หนักใจกองทัพถูกดึงเอี่ยวยิงสนธิ

อนุพงษ์ไม่หนักใจกองทัพถูกดึงเอี่ยวยิงสนธิ

อนุพงษ์ไม่หนักใจกองทัพถูกดึงเอี่ยวยิงสนธิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.ทบ.ไม่หนักใจกองทัพถูกพาดพิงเอี่ยวลอบยิง สนธิ ลั่นทหารทำผิดหรือถูกกล่าวหาก็ต้องดำเนินคดีเหมือนคนนอก ตร.บุกถิ่นแก๊งค้าอาวุธเมืองกาญจน์พบกระสุนเอ็ม 16 ต้องสงสัยล็อตเดียวกับใช้ถล่ม แกนนำพธม.ป่วยเลื่อนแจงเปิดใจเป็นวันที่ 3 พ.ค.

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เลื่อนการประชุมกับทางแกนนำพันธมิตร และการเปิดแถลงข่าวถึงเบื้องหลังเหตุการณ์ที่ถูกลอบสังหาร ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ เวลา 12.30 น. โดยนายสนธิกล่าวว่า มีอาการไข้เล็กน้อย และได้รับการแนะนำจากแพทย์ให้พักผ่อน

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิระบุว่าถูกคนในกองทัพลอบยิง ว่า คงไม่กระทบกับการทำงานของรัฐบาล หรือกองทัพ เพราะการทำผิดกฎหมายเป็นเรื่องของตัวบุคคล เชื่อว่าหลังตำรวจคลี่คลายคดีนี้ได้ทุกอย่างก็จะชัดเจนขึ้น เมื่อถามว่า ตำรวจรายงานความคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว นายสุเทพกล่าวว่า "เขาก็ยังทำงานต่อไป และตั้งใจคดีนี้ให้ได้ โดยส่วนตัวจะไม่เข้าไปกดดันว่าจะต้องทำเสร็จภายใน 3 วัน 7 วัน จะปล่อยให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ยืนยันว่าจะต้องจับตัวคนทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้"

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็นคนนอกหรือในกองทัพ ต่างอยู่ภายในกฎหมาย ดังนั้นถ้ามีการสืบสวนสอบสวนและเป็นผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาคดียิงนายสนธิ ก็ดำเนินการตามกฎหมาย ผู้มีอำนาจในการดำเนินคดีคือตำรวจ หากทราบว่า ผู้ต้องหาคือใคร สามารถทำเรื่อง เพื่อดำเนินคดีสอบสวนได้หมด

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ที่กองทัพถูกพาดพิง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี คนในหรือคนนอกกองทัพต้องเท่ากัน ถ้าคนในกองทัพทำผิดหรือถูกกล่าวหาก็ต้องดำเนินคดีเช่นเดียวกับคนนอก ไม่มีอะไรแตกต่าง หากดำเนินการตามนี้ก็คงเรียบร้อย

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือของทางตำรวจที่ขอให้ตรวจสอบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ที่ใช้ยิงนายสนธิ และระบุว่าเป็นของกองทัพ แต่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธพยายามหารายละเอียดว่า มีกระสุนล็อตใดบ้างที่มีหลักฐาน และยังไม่แน่ชัดว่า มีตัวอักษร "ดี" หรือ "เอ" หรือไม่ จึงได้สั่งให้หาข้อมูลว่า ตัว "ดี" หรือ ตัว "เอ" ได้แจกจ่ายไปหน่วยไหนบ้าง และถ้ามีตัวเรื่องมาก็จะตอบไปว่า ทางกองทัพแจกกระสุนไปที่ไหนบ้าง จากนั้นทางตำรวจคงจะต้องไปสอบสวนที่หน่วยนั้นว่า เมื่อแจกไปแล้วใครรับ หรือใครเอาไปปฏิบัติอะไรบ้าง เช่น จ่ายไปฝึกรบแล้วใครรับไป ไปฝึกที่ไหนอย่างไร จะต้องไปดูรายละเอียด โดยจะให้ความร่วมมือ

ด้าน พล.อ.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่บางกลุ่มระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ว่า ไม่ขอตอบโต้เรื่องใดๆ กับนายสนธิทั้งนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องผู้พิสูจน์ข้อเท็จจริงเองว่าใครเป็นคนยิง ดังนั้นคนที่ไม่ได้ทำก็ไม่เดือดร้อน

พล.อ.มะ กล่าวว่า เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ในทุกๆ เรื่อง แม้กระทั่งสิ่งที่สังคมยังเคลือบแคลงสงสัย เชื่อว่าวันหนึ่งข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองจะปรากฏให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจนเอง เช่นเดียวกับการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ปี ประชาชนจะรับรู้ได้เองว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ลอบสังหารนายสนธิ ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เชื่อว่าประชาชนจะรู้เองว่า ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ

"ที่มีการพุ่งเป้ามายังผม เนื่องจากผมเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มากที่สุด จนถึงปัจจุบันผมก็ยังเป็นนักการเมืองที่ยืนอยู่ข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นนักบริหารที่อยู่ในใจผมอีกด้วย เหมือนกับที่นายสนธิ เคยชม พ.ต.ท.ทักษิณ ในปี 2547 ว่าเขาดีอย่างไร เก่งอย่างไร" พล.อ.มะ กล่าว

วันเดียวกัน เวลา 15.30 น. พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี พ.ต.ท.เชาวลิต สุขสุวรรณ์ สารวัตรใหญ่ สภ.ลาดหญ้า พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบภายในไร่อ้อย และมันสำปะหลัง เนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ เลขที่ 62/1 หมู่ 1 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี เนื่องจากสืบทราบว่า เป็นแหล่งค้าสิ่งผิดกฎหมาย และต้องสงสัยว่าเป็นแหล่งจำหน่ายกระสุนเอ็ม 16 ให้กลุ่มคนร้ายที่ยิงนายสนธิ ซึ่งจากการตรวจค้นกระท่อม 2 หลังภายในไร่ พบนายสุรเชษฐ์ เหมือนจิตต์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 1 ต.วังด้ง อยู่ในอาการมึนเมายาบ้า พร้อมยึดของกลาง ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด 1 กระบอก กระสุน 10 นัด อาวุธปืนขนาด .22 แม็กนั่ม จำนวน 1 กระบอก กระสุน 10 นัด อาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 1 กระบอก และแม็กกาซีนเอ็ม 16 ขนาดบรรจุ 30 นัด 3 แม็ก กระสุนปืนเอ็ม 16 ชนิด A1 และ A2 จำนวน 168 นัด ท้ายกระสุนระบุตัวอักษรภาษาอังกฤษ R.T.A นอกจากนี้ยังพบยาบ้า 86 เม็ด เงิน 30,500 บาท และรถจักรยานยนต์ดัดแปลง ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 คัน จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท.นคร พักไพโรจน์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สภ.ลาดหญ้าดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.เรวัช กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายสุรเชษฐ์ เบื้องต้นให้การว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของนายนเรศ ไกรทอง บิดาของ นายกฤษฎา ไกรทอง และนายมาโนช ไกรทอง ส่วนนายสุรเชษฐ์ ให้การว่า เป็นเพียงคนเฝ้าไร่ และรับสารภาพว่า เสพยาบ้าไป 6 เม็ด จึงมีอาการมึนเมา ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คาดว่าได้หลบหนีไปขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม และจากการสืบสวนในเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีประวัติเป็นแก๊งค้าสิ่งผิดกฎหมายรายใหญ่ ทั้งอาวุธเถื่อน ยาเสพติด และซุ้มมือปืนรับจ้าง

"กระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ตรวจพบ จะต้องให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบขยายผลว่าเป็นล็อตเดียวกันกับที่ใช้ยิงถล่มนายสนธิหรือไม่" พล.ต.ต.เรวัช กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook