ศาลสั่งคุกตลอดชีวิต "อดีตสิบเอก" คดีดังอุ้มฆ่าเผาศพ น้องพลอย
(5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดสระบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีฆาตกรรมอื้อฉาว นายพลกฤต หรือ เอส อดีตนายทหารยศสิบเอก ที่เป็นจำเลยก่อเหตุฆาตกรรม น้องพลอย พบศพถูกเผานั่งยางในพื้นที่ จ.สระบุรี หลังหญิงสาวหายตัวไป 3 ปี และกลายเป็นคดีดังเมื่อปี 2560
นางพัชรี แม่ของพลอย พร้อมกับทนายความ ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ด้วย โดยศาลได้พิเคราะห์รูปคดีแล้ว พบว่า นายพลกฤต มีเจตนาก่อเหตุฆ่า น้องพลอย โดยการบีบคอให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต โดยไม่คิดนำส่งโรงพยาบาลหรือแจ้งใดๆ และนำศพไปทำการอำพรางคดีด้วยการเผา
ดังนั้น ศาลจะได้พิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในกรณีนี้ แต่จำเลยได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 33 ปี 11 เดือน และชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 1,500,000 บาทด้วย
>> เปิดคำสารภาพ สิบเอกอุ้มน้องพลอย ฆ่าทิ้งสระบุรีเพราะหึง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากศาลได้ให้คำพิพากษา ทางด้าน นางพัชรี แม่ของผู้เสียชีวิตค่อนข้างพอใจกับคำตัดสิน แต่ก็ยังจะเดินทางยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพราะต้องการให้ศาลมอบบทลงโทษกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด นั่นก็คือโทษประหารชีวิต ขณะที่ฝ่ายจำเลยก็อาจจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาสู้คดีต่อด้วยเช่นกัน
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากการหายตัวไปของ น้องพลอย ตั้งแต่ปี 2557 โดยแม่ของน้องพลอยได้ส่งจดหมายเปิดผนึกไปถึงนายกรัฐมนตรี เนื่องจากสงสัยว่าการหายตัวไปของลูกสาว จะเกี่ยวข้องกับ นายพลกฤต อดีตทหารลักพาตัวไป
>> ย้อนรอย กว่า 3 ปีที่หายตัวแม่สู้จนพบ “น้องพลอย”
กระทั่งมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารติดตามตัว และเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2560 ได้จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อาศัยอยู่กับภรรยา ก่อนจะรับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่าน้องพลอย และอำพรางเผาศพไว้ที่ จ.สระบุรี ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน เพราะความหึงหวงที่อีกฝ่ายตีตัวออกห่าง หลังทราบว่าตนเองมีภรรยาอยู่แล้ว
โดยหลังก่อเหตุ นายพลกฤต ได้ใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีกทั้งยังลงทุนเข้าผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม ก่อนจะผันตัวไปทำงานบาร์เกย์ โดยใช้รูปร่างและหน้าตาในการประกอบอาชีพ ต่อมาก็ถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด