ถึงกับมึน! รวบหนุ่มพิรุธซุกยาบ้า อ้างขี่ จยย. จะไปคืนเอเย่นต์เพราะเสพแล้วตัวยาไม่โดน
( 5 ก.ค. 61 ) พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อม พ.ต.ท.สมพร สุ่มมาตย์ สว.ป. สภ.นาจอมเทียน ได้นำกำลังตำรวจจราจร สภ.นาจอมเทียน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม และกวดขันวินัยจราจร หน้าที่พักสายตรวจจราจร โรงแรมแอมบาสเดอร์จอมเทียน ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าพัทยา ม.2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลัง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรม พร้อมทั้งกวดขันวินัยจราจร ได้พบชายไทยขับขี่ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง ทะเบียน 2กผ 6603ชลบุรี สวมหมวกกน็อคเต็มใบ ผ่านเข้ามาลักษณะมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ
จากการตรวจค้นพบ ยาเสพติด ประเภทยาบ้า ซุกซ่อนในกระเป๋ากางเกงของชายคนดังกล่าว บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส จำนวน 29 เม็ด ทราบชื่อต่อมาคือ นายต่อศักดิ์ อายุ 32 ปี พร้อมตั้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้ โทษประเภทที่ 1 ไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎมาย ส่งดำเนิคดีตามกฎหมาย
สอบสวน นายต่อศักดิ์ ผู้ต้องหา ทราบว่า มีอาชีพเป็นช่างอยู่ร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งใน อำเภอสัตหีบ โดยก่อนถูกจับ กำลังจะ ขี่ จยย. นำยาบ้าที่เพิ่งไปซื้อมาจากเอเย่นต์รายหนึ่งในเขตมีนบุรี กทม. ไปคืน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ทดลองเสพไปจำนวน 1เม็ด ก่อนที่จะรู้สึกว่า ยาเสพบ้าที่ตนเองซื้อมา นั้นเป็นของไม่ดี ตัวยาไม่ดีเหมือนที่เคยเสพ
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ซื้อมาจำนวน 50 เม็ด ในราคาเม็ดละ 50 บาท เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับเพื่อนร่วมงานในราคาเม็ดละ 100-150 บาท ก่อนที่จะแบ่งขายไปแล้ว 20 เม็ด ส่วนยาบ้าที่เหลือจะนำไปคืน เพื่อเปลี่ยนยาบ้าตัวใหม่
แต่ระหว่างทางได้ถูกตำรวจ ตรวจและถูกจับได้ดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ เคยนำยาบ้ามาจำหน่ายแล้ว 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 บางครั้งก็รับมาครั้งละ 100 เม็ด เพื่อมาจำหน่ายให้กับเพื่อน
พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก. สภ.นาจอมเทียน กล่าวว่า ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมพร้อมทั้งกวดขันวินัยจราจรกับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร รวมทั้งกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายทั้ง พ.ร.บ.อาวุธปืนและยาเสพติด ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเป็นการป้องกันเหตุให้กับนักท่องเที่ยว
ซึ่งในการตั้งจุดตรวจก็ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดในข้อหาต่างๆ เช่น ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัย รวมทั้งตรวจสอบหลักฐานเอกสารรถรวมทั้งรถที่นักท่องเที่ยวเช่ามา ว่า มีการเช่ามาอย่างถูกต้องและมีเอกสารถูกต้องหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาในพื้นที่ใกล้เคียงเช่นพื้นที่เมืองพัทยา ที่เป็นเขตติดต่อ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เช่ารถจักรยานยนต์ มาแล้วนำมาก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ต่างๆ จนมีการจับกุมได้พร้อมของกลางจึงจำเป็นต้องเน้นตรวจสอบและบันทึกไว้เป็นข้อมูล
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ