ได้แค่กอดรองเท้า! ปู่ซ่อมรถ-ยายไปตลาด หลานวัย 7 ขวบวิ่งซุกซนพลัดจมน้ำคลองหน้าบ้าน

( 5 ก.ค. 61 )  ร.ต.ท.หญิง ประภัสสร  ไม่ทุกข์  รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง  ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กจมน้ำเสียชีวิต  ที่บริเวณคลองชลประทาน  หมู่ที่ 3  ตำบลหัวไผ่  อำเภอเมือง  จังหวัดอ่างทอง  หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ  พร้อมด้วยแพทย์พยาบาล  โรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยอ่างทอง

ในที่เกิดเหตุบริเวณคลองชลประทาน  มีความกว้าง 5 เมตร  ลึก 1.50 เมตร  บนถนนพบศพผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายสวมเสื้อกล้ามลายสีฟ้าขาว  นุ่งกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนสีแดง  ซึ่งทางเพื่อนบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำขึ้นมาทำการ CPR ช่วยชีวิตแต่ไม่สำเร็จ  

ทราบชื่อต่อมาว่า  เด็กชายภัชร  อายุ 7 ปี  อาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำบลหัวไผ่  อำเภอเมือง  จากการสอบสวนเบื้องต้น นางลัดดา   อายุ 41 ปี  ย่าของ เด็กชายภัชร  ให้การว่า  หลังจากเลิกเรียนกลับมาที่บ้าน ตนเองเห็นน้องภัชร  กำลังนั่งทำการบ้าน  ตนเองจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปตลาดนัดในตัวเมืองเพื่อที่จะไปซื้อของ  โดยปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง  เนื่องจากปู่ทำสีรถยนต์อยู่อู่ข้างบ้าน  

และเมื่อกลับมาถึงบ้านไม่พบเด็กชายภัชร  จึงได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยออกตามหา  พบรองเท้าถอดอยู่บริเวณริมคลอง  เพื่อนบ้านจึงได้ช่วยกันลงไปงมพบหลานชายเป็นศพจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในลำคลอง  ตนเองถึงกับหมดเรี่ยวแรง  

ด้านนายวิเดช    อายุ 44 ปี  ปู่เด็กที่เสียชีวิตเปิดเผยว่า  ก่อนเกิดเหตุ น้องภัชร ได้นำกาแฟมาให้ตนเองที่อู่รถ  บอกว่าวันนี้ภัชร  เอากาแฟมาให้ปู่  แล้วเดินออกไปเพื่อกลับบ้าน  จึงไม่ได้เอะใจ เนื่องจากบ้านอยู่ติดกับอู่ที่ทำสีรถยนต์ที่ตนเองทำงาน  และน้องภัชร  มักจะเดินเล่นอยู่บริเวณละแวกบ้านอยู่เป็นประจำ

ด้าน ร.ต.ท.หญิงประภัสสร  กล่าวว่า  จากการสอบสวน นายสมชาย  อายุ 38 ปี  เพื่อนบ้านที่ช่วยลงงมหาอยู่นานกว่า 40 นาที  จนพบน้องภัชร  จมน้ำเสียชีวิตแล้วอยู่ภายในคลองห่างจากจุดถอดรองเท้าประมาณ 50 เมตร  จึงได้นำเด็กขึ้นมาช่วยกันปั๊มหัวใจ และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือแต่ช่วยไว้ไม่ทัน เนื่องจากเด็กชายจมน้ำเสียชีวิตมานานแล้ว  จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบ  

คาดว่า ผู้เสียชีวิตอาจจะเดินไปเล่นอยู่บริเวณริมคลองแล้วเกิดพลัดตกลงไป ประกอบกับน้องภัชร  ว่ายน้ำไม่เป็น  จึงทำให้จมน้ำเสียชีวิต  แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนหาสาเหตุที่น่าสลดใจในครั้งนี้ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป