เด็กไทยคว้า5ทองฟิสิกส์โอลิมปิกเอเชีย
เด็กไทยสุดเจ๋ง คว้า 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน ในการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกเอเชีย ครั้งที่ 10 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
(1พ.ค.) เวลา 17.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นองค์ประธานปิดการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับเอเชีย ครั้งที่ 10 และพระราชทานเหรียญแก่ผู้ชนะการแข่งขันซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่ง ขัน ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยมี รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ และคณะกรรมการจัดการแข่งขันเฝ้าฯรับเสด็จ
ทั้งนี้การแข่งขัน ฟิสิกส์โอลิมปิกฯครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 17 ทีม จาก 15 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม, จีน, ไต้หวัน, อินเดีย, อินโดนนีเซีย,อิสราเอล, คาซัคสถาน, มาเลเซีย, มองโกเลีย, ฟิลิปปินส์, ศรีลังกา, ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, เวียดนาม,และไทยในจำนวนนี้มีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าร่วมแข่ง ขัน 119 คน สำหรับประเทศไทยได้ส่งตัวแทนนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขัน 16 คน แบ่งเป็น 2 ทีม คือ ทีมผู้แทนประเทศไทย 8 คน และทีมรับเชิญ 8 คน ซึ่งการแข่งขันได้เริ่มระหว่างวันที่ 24 เมษายน-1 พฤษภาคม ที่ม.เกษตรฯ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยมีกระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิ สอวน. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) ม.เกษตรฯ และสมาคมฟิสิกส์ไทย เป็นเจ้าภาพร่วม
สำหรับผลแข่งขันปรากฏว่า เด็กไทยคว้าได้ 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน กับอีก 4 รางวัลเกียรติคุณประกาศ สำหรับผู้ที่คว้าเหรียญทองได้ คือ นายอิสระพงศ์ เอกสินชล จากร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม นายธนภัทร วรศรัณย์ จากร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม นายจิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม นายวีรภัทร พิทยครรชิต ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา กทม. นายสรณภพ เทวปฏิคม ร.ร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนผู้คว้าเหรียญเงิน ได้ 3 เหรียญ คือ นายนครินทร์ โลหิตศิริ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา นายธิปก รักอำนวยกิจ ร.ร.สาธิต มศว.ปทุมวัน นายวีรชาติ ศรีสโสร ร.ร.โยธินบูรณะ กทม. ทั้งนี้ทีมรับเชิญของไทยยังสามารถคว้ารางวัลเกียรติคุณประกาศได้ 4 รางวัล คือ นายจิณณสิทธิ์ หงส์ตระกูล จากร.ร.ยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ นายภาณวิชญ์ หาญพินิจศักดิ์ ร.ร.ขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น นายจีระศักดิ์ วัดวิทยาคุณ ร.ร.ศรียาภัย จ.ชุมพร และนายชัยศิริ ตุ้มทอง วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กทม. นอกจากนี้ตัวแทนประเทศไทยยังทำคะแนนรวมได้เป็นอันดับ 4 ของการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ประเทศที่ ได้เหรียญทองมากที่สุดคือ ประเทศจีนซึ่งสามารถคว้าได้ 8 เหรียญทอง ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ประเทศไต้หวัน ได้ 7 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน อันดับ 3 คือ ประเทศไทย ได้ 5 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 4 รางวัลเกียรติคุณประกาศ อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศเวียดนาม ซึ่งถือว่าเป็นประเทศตัวเก็ง แต่ในการแข่งขั้นครั้งนี้สามารถคว้าได้เพียงแค่ 2 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง และ 4 รางวัลเกียรติคุณประกาศ
สมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯทรงมีพระราชดำรัสปิดการแข่งขันว่าขอชื่นชมประเทศไทยที่จัดการแข่งขัน ฟิสิกส์โอลิมปิกฯ ในครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติทางการเมืองก่อนการแข่งขันก็ตาม ซึ่งวิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่สำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและการศึกษา หวังว่าการจัดการแข่งขันครั้งนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการศึกษา และไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้แสดงความสามารถ และศักยภาพของตนเองที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาต่อในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะมีความสุขตลอดเวลาที่พักอยู่ในไทย พร้อมทั้งได้ประสบการณ์ต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในอนาคตและข้าพเจ้าขออวยพรให้ผู้เข้าร่วมการแข่ง ขันทุกคนมีความเจริญก้าวหน้าทางการศึกษาในอนาคต และเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัย
นายอิสระพงศ์ เอกสินชล นักเรียนชั้น ม. 5 ร.ร.มหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งคว้าเหรียญทองให้ประเทศไทย และเป็นผู้ที่ทำคะแนนได้สูงสุดในจำนวน 5 คนของนักเรียนไทยที่ได้เหรียญทอง และยังได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 ในจำนวนผู้เข้าแข่งขัน 119 คน กล่าวภายหลังรับพระราชทานเหรียญรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯ ว่า ต้องขอขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ อาจารย์ และรุ่นพี่ ที่ช่วยสั่งสอนอบรมสนับสนุนจนได้เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับการเตรียมตัวในการแข่งขัน คิดว่าจะต้องมีความตั้งใจศึกษาอย่างลึกซึ้ง มีมุ่งมั่นและหมั่นฝึกฝนทำการทำลองในห้องปฏิบัติ หากมีข้อสงสัยก็ให้ปรึกษาอาจารย์หรือรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่า สำหรับเคล็ดลับในการเรียนฟิสิกส์คือตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง และมีความกระตือรือร้นและทำด้วยความรัก
นายสรณภพ เทวปฏิคม นักเรียนร.ร.สาธิตจุฬาฯ กล่าวว่า เห็นว่าห้องเรียนฟิสิกส์ของไทยเป็นรูปแบบการเรียนฟิสิกส์ในกระดาษ ไม่ได้ปฏิบัติจริง ทุกคนมุ่งทำข้อสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ความจริงวิชาฟิสิกส์เป็นทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว อยากฝากให้รัฐบาลหากต้องการพัฒนาวิทยาศาสตร์ ต้องทุ่มเทพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ ให้เด็กไทยได้ทดลองมากขึ้น และทำให้เด็กไทยเห็นว่าการเป็นนักวิทยาศาสตร์มีความก้าวหน้าในอาชีพ ก็ต้องดูแลเรื่องเงินเดือน การปฏิบัติการในห้องวิทยาศาสตร์ สำหรับตนมีความมุ่งหวังที่อยากเป็น รมว.ศึกษาธิการ ในอนาคต เพราะเห็นว่าการศึกษาของไทยในขณะนี้ยังไม่พัฒนา แม้พวกตนจะได้รับรางวัลเหรียญทองก็ตาม แต่เป็นคนส่วนน้อยของประเทศ จึงอยากกลับยกระดับการศึกษาของชาติ ให้นักเรียนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น
นาย วีรภัทร พิทยครรชิต นักเรียนร.ร.เตรียมอุดมศึกษา กล่าวหลังจากเข้าเฝ้าสมเด็จพระเทพฯว่า สมเด็จพระเทพฯ มีรับสั่งกับเยาวชนไทย โดยทรงถามว่าจากนี้จะแข่งขันที่ใดอีก ซึ่งพวกเราก็ตอบว่า ในเดือน ก.ค.นี้ เยาวชนไทยจะไปแข่งขันฟิสิกส์ระดับนานาชาติที่เม็กซิโก ซึ่งพระองค์ก็ทรงตรัสแสดงความห่วงใยเรื่องไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดอยู่ ซึ่งเรื่องนี้พวกตนไม่กังวล ขณะนี้จะเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยที่จะเข้าแข่งขัน และคิดว่าอีก 2 เดือน สถานการณ์คงเรียบร้อยแล้ว