บุกชิงทอง58บ.บนห้างคาร์ฟูลาดพร้าว

บุกชิงทอง58บ.บนห้างคาร์ฟูลาดพร้าว

บุกชิงทอง58บ.บนห้างคาร์ฟูลาดพร้าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนร้ายสวมหมวกกันน๊อคครึ่งใบ บุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทองเกือบ 60บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบนห้างคาร์ฟูลาดพร้าว

(2พ.ค.) เวลา 11.30 น. ร.ต.ท.สามารถ โตดีลัง หัวหน้าสายตรวจสน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งมีคนร้ายจี้ชิงทองภายในห้างสรรพสินค้าคาร์ฟู สาขาลาดพร้าว ถ.ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนนำกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 เจ้าหน้า ที่ฝ่ายสืบสวนสน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายทองชื่อโอ เรียลเต็ล จิวเวอร์รี่ ซึ่งอยู่โซนโฮมโปร แผนกร้านเช่า ร้านทองดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับห้างเพชรทอง โอโรร่า โดยมีพนักงานขายทองของร้านโอเรียลเต็ล ชายหญิงสองคนยืนรอให้การกับเจ้าที่ตำรวจ มีสีหน้าตื่นตกใจ

จากการ สอบสวนนายพิรุณ วัฒนา อายุ 27 ปี พนักงานขายร้านเกิดเหตุ ให้การว่า ร้านจะเปิดบริการตั้งแต่ 09.00 น.-22.00 น.ทุกวัน ขณะที่ตนกับน.ส.เสาวลัษณ์ สุขเลิศ อายุ 20 ปี พนักงานขายอีกคนกำลังทำหน้าที่อยู่ภายในร้านระหว่างนั้นไม่มีลูกค้า ก็มีชายรูปร่างท่วม สูงประมาณ 170 ซม. แต่งการสวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีครีมรูปซิปถึงขอ สวมหมวกกันน๊อคแบบครึ่งใบสีน้ำเงิน โดยมีผ้าปิดจมูกอำพรางใบหน้าเดินผลักประตูเข้ามาในร้าน ตนรู้ว่าเป็นคนร้ายแน่ พยายามหาทางป้องกันตัว แต่คนร้ายได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ บอกว่าให้เอาทองมาให้เร็วๆ อย่าช้าไม่อย่างนั้นจะยิง ตนเองจึงหยิบสร้อยทองเส้นเล็กให้คนร้าย

คน ร้ายบอกไม่เอาจะเอาเส้นใหญ่ ให้รีบๆหยิบมา พร้อมกับจ่อปืนมาที่ศีรษะ ด้วยความกลัวจึงกวาดเอาทองที่อยู่ในตู้โชว์ให้คนร้านประมาณ40เส้น เป็นทองหนัก 2 บาท 3 บาทและ 5 บาท รวม 58 บาท รวมมูลค่า 8 แสนกว่าบาท คนร้ายก็กวาดเอาทองใส่เสื้อแจ๊คเก๊ตแล้วกุมไว้จากนั้นก็ขู่บังคับจะเอาเงิน สดอีก ตนเองจึงบอกคนร้ายว่าร้านเพิ่งเปิดยังไม่มีเงินสด แต่คนร้ายไม่เชื่อได้ใช้ด้ามปืนเคาะตู้กระจกเพื่อให้รู้ว่าเป็นปืนจริง ก่อนจะเอามาจ่อที่ศีรษะอีกครั้ง ทำให้น.ส.เสาวลักษณ์ต้องหยิบเงินที่ทางร้านเอาไว้สำรองจ่ายเป็นเงินทอนจำนวน 3500 บาทมาให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายออกจากร้านวิ่งหลบหนีไปทางด้านหน้าห้าง

ด้าน พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น พนักงานขายก็ไม่สามารถเห็นใบหน้าได้ชัดเจน เนื่องจากคนร้ายสวมหมวกกันน็อคและใช้ผ้าปิดบังใบหน้าเห็นเพียงลูกตา นอกจากนี้ภายในร้ายก็ไม่มีกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบห้างทองโอโรร่าซึ่งตั้งอยู่ติดกันเพื่อขอ ดูภาพวงจรปิด ก็พบเป็นเพียงภาพคนร้ายวิ่งผ่านหน้าร้านไป ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานกับห้างเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดโดยรอบห้างคาร์ฟู ว่าคนร้ายหลบหนีไปไหนและใช้พาหนะอะไรหลบหนี และจะนำตัวพนักงานของร้านเกิดเหตุไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่สน.อีกครั้ง

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ปกติถ้าร้านขายทองดังกล่าวจะมีพนักงานขาย 3 คน แต่มีพนักงานคนหนึ่งได้ลาออกไปก่อนหน้านี้และแจ้งกับพนักงานขายที่ร้านว่าจะ มาเอาของในวันนี้ แต่ยังไม่ทันมาก็มีคนร้ายมาจี้ชิงทองไป เสียก่อน สำหรับทองของร้านดังกล่าวก็ได้มีการทำประกันเอาไว้ แต่กรณีดังกล่าวทางประกันจะไม่รับผิดชอบ เพราะร้านดังกล่าวมีพนักงานไม่ถึง 3 คน ในสัญญาประกันบอกว่าขณะเกิดเหตุจี้ชิงทรัพย์หรือเหตุอื่นๆ ต้องมีพนักงานอยู่ในร้าน 3 คนขึ้นไป ถึงจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook