วิกฤติขยะทางทะเล! ฝึกพัฒนาการโลมาเกยตื้น คาดปล่อยลงทะเลได้หลังฟื้นตัว

โลมาเพศเมียเกยตื้นมีพัฒนาการดีขึ้นทีมสัตวแพทย์กลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ นำฝึกพัฒนาการกล้ามเนื้อในทะเลจริง คาดจะพร้อมออกทะเลในเร็วๆ นี้ ส่วนประชากรโลมาทุกชนิดเข้าสู่วิกฤติจากขยะทางทะเล

วันนี้ (5 ก.ค.61) ที่ทะเลหน้าสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต

นำโลมาเพศเมีย ยาว 217 ซม.น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ที่เกยตื้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61 บริเวณหาดคลองสน อ.เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา โดยเบื้องต้นพบมีสภาพอ่อนแรง มีบาดแผลข้างลำตัว ไม่สามารถว่ายน้ำได้ เนื่องจากสูญเสียการทรงตัว

จึงนำมาทำการอนุบาลที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ทั้งให้ยาบำรุง ยาคลายเครียด ยาฆ่าเชื้อ และยาอื่นๆ จนโลมาเพศเมียตัวดังกล่าวมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น มีพัฒนาการที่ดีขึ้น พี่เลี้ยงจึงนำว่ายน้ำพามากินมื้อบ่ายในทะเลจริง เพื่อเป็นการฝึกให้โลมาได้ใช้กล้ามเนื้อไปในตัว

ปรากฏว่าโลมาตอบสนองไปในทางที่ดีมากไม่เครียด และว่ายน้ำตามทีมสัตวแพทย์ไปมา แต่ยังไม่พร้อมที่จะออกทะเลลึกคงวนเวียนอยู่กับเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งการฝึกพัฒนาการในครั้งนี้มั่นใจว่าจะทำให้เจ้าโลมาตัวนี้มีร่างกายแข็งแรง และสามารถกลับคืนฝูงได้ในเร็วๆนี้  

นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต กล่าวสำหรับโลมาทุกชนิดในชายทะเลอันดามันที่เคยมีอย่างชุกชุมนั้น ปัจจุบันถือว่าเข้าสถานการณ์ที่วิกฤติมากจากขยะทางทะเล

จากการสำรวจครั้งล่าสุดพบเหลือเพียง 100 กว่าตัวและไม่เกิน 200 ตัวเท่านั้น เนื่องจากส่วนใหญ่ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดจากการกินขยะทางทะเล โดยเฉพาะถุงพลาสติก เพราะโลมาคิดว่าเป็นแมงกะพรุนที่เป็นอาหารโปรดของโลมาจนทำให้โลมาตายปีละหลายสิบตัว