ยึดแล้ว! แปลงปลูกยางพาราบุกรุก "ป่าสงวนแห่งชาติ" กว่า 242 ไร่
เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานสนธิกำลังยึดคืนผืนป่า หลังพบกลุ่มทุนจากจังหวัดกระบี่ และเพชรบูรณ์เข้ามารุกป่าปลูกยางพารารุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวนมาก จนผู้ใหญ่บ้านและกำนันในพื้นที่ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคาทนไม่ไหว นำเจ้าหน้าที่เข้าไปชี้จุดเกิดเหตุ
วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 พ.อ.สมศักดิ์ เตชะสืบ รอง ผอ.รมน.จังหวัดลำปาง นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เดินทางด้วยรถยนต์กระบะเข้าไปยังพื้นที่เพื่อจะทำการปักป้ายตรวจยึด
เหตุเกิดที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เรียง เขตบ้านมะกอกนาบัว หมู่ 4 ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าไปปิดป้ายประกาศการตรวจยึดพื้นที่แปลงปลูกยางพาราในวันนี้ทั้งหมด 10 แปลง รวมเนื้อที่ 242 ไร่
เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อจะคืนผืนป่าให้เป็นธรรมชาติดังเดิม ทั้งนี้ การเข้าตรวจยึดและปักป้ายห้ามเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่แห่งนี้อย่างเด็ดขาด
เนื่องจากว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน กำนันในพื้นที่ตำบลไหล่หินว่า มีกลุ่มนายทุนเข้ามาว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ เข้าไปทำการแผ้วถางป่าจากนั้นก็ได้เข้ามาซื้อต่อจากชาวบ้านในราคาถูกแล้วทำการปลูกต้นยาพารา
มีการทำเป็นขบวนการใหญ่ ทำลายพื้นที่ป่าเสียหายเป็นบริเวณกว้างอีกทั้งยังก่อให้เกิดปัญหามลพิษที่เกิดจากการใช้สารเคมี น้ำยาฆ่าหญ้าในพื้นที่ป่าและเมื่อฝนตกลงมาทำให้เกิดการชะล้างสารพิษเหล่านี้ลงสู่แหล่งน้ำของชาวบ้าน
โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกสำรวจ และพบว่ามีการรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมด 10 แปลง แต่ละแปลงมีชื่อของคนนอกพื้นที่ครอบครอง ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้าตรวจยึดทางเจ้าหน้าทีได้ปิดประกาศให้เจ้าของแปลงยางพารามาแสดงตัว
พบว่าเป็นนายทุนจากจังหวัดกระบี่ 4 แปลง จากจังหวัดเพชรบูรณ์ 3 แปลง ชาวบ้านในพื้นที่ 1 แปลง และอีก 2 แปลง ไม่มีใครมาแสดงตัว โดยได้นำหลักฐานการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางมาแสดง
แต่กลับพบว่าพื้นที่ที่ปลูกยางพาราในครั้งนี้ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ อีกทั้งยังเป็นป่าสงวน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดทันที พร้อมทั้งจะเร่งติดตามตัวผู้ที่อ้างว่าครอบครองพื้นที่ปลูกยางพารามาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป